ต้องใช้ฝึกฝนเวลาแค่ไหน ? ถึงจะเก่งได้สักหนึ่งทักษะ

“It takes ten thousand hours to truly master anything. Time spent leads to experience; experience leads to proficiency; and the more proficient you are the more valuable you’ll be.”

ประโยคอันโด่งดังของ Malcolm Gladwell อดีตนักข่าวสายธุรกิจและวิทยาศาสตร์ของ Washington Post ผู้อยู่เบื้องหลังทฤษฎีพัฒนาตนเองอันโด่งดังที่เรียกว่า “กฎ 10,000 ชั่วโมง”

“ทักษะ” สร้างได้ จะใช้เวลาเท่าไหร่ อยู่ที่เราเลือก

ใจความหลักของเรื่องนี้คือ ไม่ว่าใครก็ตามบนโลกใบนี้ ถ้าลองได้ใช้เวลากับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างต่ำ 10,000 ชั่วโมง คุณจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในทักษะด้านนั้นทันที ซึ่งเวลา 10,000 ชั่วโมง ฟังแล้วดูอาจจะยาวนานเหมือนชั่วชีวิต แต่ถ้าเราลองเทียบบัญญัติไตรยางค์ง่าย ๆ เช่นฝึกเบา ๆ แค่วันละ 1 ชั่วโมง ต้องใช้เวลา 10,000 วัน หรือประมาณ 27 ปีเต็ม ๆ  ถ้าขยันขึ้นมาหน่อยลองฝึกวันละ 4 ชั่วโมง เราจะใช้เวลาใช้เวลาเหลือแค่ 2,500 วัน หรือประมาณ 7 ปี แต่ถ้าใช้เวลาครึ่งวันหรือ 12 ชั่วโมงในการฝึก เราจะใช้เวลาเพียงแค่ 833 วันหรือเพียง 2 ปีเท่านั้นเอง ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความสม่ำเสมอและชั่วโมงที่ฝึกฝน ดังนั้น หากเราทำอะไรทุก ๆ วันแล้ว เราจะเก่งขึ้น ชำนาญในเรื่องนั้น ๆ ไปโดยไม่รู้ตัว

สอดคล้องกับงานวิจัยของ K. Anders Ericsson นักจิตวิทยาชื่อดังชาวสวีเดน ที่ได้ทำการทดลองให้เด็ก ๆ ในคลาสเรียนไวโอลินที่ทุกคนมีพื้นฐานเท่ากับศูนย์เหมือนกัน ซึ่งเมื่อจบคลาส สิ่งที่เขาค้นพบคือ นักเรียนฝีมือระดับพระกาฬจะใช้เวลาฝึกซ้อมทั้งหมด 10,000 ชั่วโมง นักเรียนที่เล่นได้ในระดับดีรองลงมา จะใช้เวลาฝึกซ้อมอยู่ที่ 8,000 ชั่วโมง ค่อย ๆ ลดลั่นกันลงไปในอัตราเดียวกัน และผลการทดลองนี้ก็เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันกับนักเรียนเปียโน

ความสำเร็จของกฎ 10,000 ชั่วโมง ติดอาวุธ “ทักษะ” ใครบ้าง

กฎนี้ถูกถ่ายทอดผ่านบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนจากหลากหลายวงการ ตัวอย่างเช่น Bill Gates ที่ฝึกฝนทักษะคอมพิวเตอร์ 8 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งถือว่าเป็นการฝึกในระดับเอาเป็นเอาตายเลยทีเดียวสำหรับเด็กหนุ่มในวัย 15 ปี แต่ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาเป็นยักษ์ใหญ่ได้อย่างวันนี้ เช่นเดียวกับหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกันที่ตรากตรำฝึก 10 ชั่วโมงต่อวันตลอด 20 ปี และวันนี้เราก็รู้จักเขาในฐานะนักกอล์ฟเบอร์หนึ่งของโลก “Tiger Wood ”

แล้วปัจจัยอะไรที่จะทำให้ใครซักคนยอมทำกิจวัตรซ้ำซากจำเจได้เป็น 10,000 ชั่วโมง

คำตอบคือ ความกระหาย

กระหายในความสำเร็จ กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน และท้าทายลิมิตตัวเองบ่อย ๆ ยกตัวอย่างเช่น เราใช้เวลา 1 ชั่วโมงเพื่อท่องคำศัพท์ 20 คำ เมื่อทำไปเรื่อยๆสมองจะเกิดความเคยชินกลายเป็น Comfort Zone ในบางครั้งเราอาจเพิ่มจำนวน เพิ่มระดับความยากของมันดูซักหน่อย ให้สมองรู้สึกท้าทาย สร้างความตื่นเต้นบ้างเป็นระยะท่ามกลาง 10,000 ชั่วโมงที่แสนทรหด

พื้นฐานของการเป็นมนุษย์ที่เก่งทักษะอะไรซักอย่างหนึ่ง คุณสมบัติที่ต้องมีแน่ ๆ คือ ความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะการบางช่วงเวลาระหว่างการฝึกฝน เราอาจจะพบเจอช่วงเวลาท้อแท้ เบื่อหน่าย ไปต่อไม่ไหว รู้สึกจนมุม ถ้าใจและกายทำงานร่วมกันได้อย่างแข็งแกร่งมากพอ เราจะเปลี่ยนสิ่งนั้นเป็นภูมิคุ้มกันและความทะเยอทะยานให้เดินได้อย่างลำพังและมั่นคงจนวินาทีสุดท้ายของ 10,000 ชั่วโมงนี้

จงระลึกไว้เสมอว่า “ทักษะ” ไม่ต้องพึ่งพรสวรรค์หรือกรรมพันธุ์เสมอไป

ขอแค่เรามี “วินัย” สัก 10,000 ชั่วโมงเท่านั้นก็พอ 

อ้างอิง
https://www.boredpanda.com/language-learning-difficulty-map-europe/?utm_source=teen.mthai&utm_medium=referral&utm_campaign=organic&fbclid=IwAR1-U2crdHhOTuEWf3Fs51DDIEtQXBjJef-Afpede12Y0bNv-BWxK2xXBD8
https://www.vox.com/science-and-health/2019/8/23/20828597/the-10000-hour-rule-debunked
https://bakadesuyo.com/2012/05/is-it-true-that-10000-hours-of-practice-will/