สาส์นลับจากฝูงห่านไซบีเรียถึงมนุษย์ออฟฟิศ 4.0

A A
Dec 12, 2021
Dec 12, 2021
A A

เมื่อไหร่ที่เราหลงระเริงในอำนาจเมื่อนั้นเราคือคนหลงตัวเอง

        เพราะความสำเร็จเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็แสวงหา แต่เมื่อได้มันมาและเปลี่ยนแปลงมันเป็นอำนาจ เราเองก็แค่คนขลาดคนนึง ต้องการเป็นที่รักได้รับการสรรเสริญเยินยอ หมกมุ่นอยู่กับการโอ้อวดตัวเอง ขาดความเห็นอกเห็นใจและช่วยเหลือผู้อื่น โหยหาคบค้าสมาคมกับบุคคลที่มีความพิเศษมีความสำคัญ เพราะการกระทำดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความน่าเชื่อถือให้ตัวเองมากขึ้น

        หลายต่อหลายครั้งที่ระบบนิเวศและกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติให้ปรัชญาและคำสอนต่อมวลมนุษยชาติผ่านกระแสแห่งวิถีชีวิต ต้นไม้มีเกิดมีเฉา น้ำมีขึ้นมีลง สะท้อนให้เห็นว่า อำนาจได้มาก็ต้องปล่อยไป ไม่มีใครอยู่คงอยู่ค้ำฟ้า

        สังคมของสัตว์ตามธรรมชาติ มักอยู่ร่วมกันเป็นฝูง มีความสัมพันธ์และอาศัยพึ่งพาซึ่งกันและกัน เช่น ช้าง เสือ ลิง ซึ่งรวมไปถึง เป็นสัตว์สังคมประเภทเลี้ยงลูกด้วยนมที่มีลักษณะพิเศษเหนือกว่าสัตว์อื่น ๆ จนได้ชื่อว่ามนุษย์ แปลว่า ” ผู้ฉลาด ผู้รู้คิด ” ภาษาอังกฤษใช้คำว่า HUMAN หมายถึง ผู้มีวัฒนธรรม ในทางสังคมวิทยาถือว่ามนุษย์เกิดขึ้นพร้อมกับสังคม หรือสังคมมนุษย์ มนุษย์กับสังคมจึงเป็นสิ่งเดียวกันแยกจากกันไม่ออก

        อริสโตเติล นักปราชญ์ชาวกรีก กล่าวว่า “มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” หมายความว่า โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ไม่สามารถอยู่ลำพังเพียงคนเดียวได้ ต้องอาศัยรวมกันอยู่เป็นหมู่เหล่า ติดต่อสัมพันธ์กันพึ่งพาอาศัยและอยู่ภายใต้ระเบียบกฎเกณฑ์เดียวกัน มนุษย์ได้รวมตัวกันสร้างวัฒนธรรมขึ้น เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองจากด้านที่เป็นสัตว์เดรัจฉานมาเป็นด้านที่เป็นมนุษยธรรม มนุษย์จึงต้องมีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เพราะวัฒนธรรมเกิดจากการเรียนรู้ ไม่ได้เกิดขึ้นเองแบบสัญชาตญาณสัตว์การเรียนรู้ของมนุษย์จึงไม่มีที่สิ้นสุด สังคมมนุษย์ถูกสอนให้เรารู้ว่าทุกคนมีสิทธิ์เป็นผู้นำ แต่เมื่อเป็นผู้นำก็ย่อมมีอำนาจ แล้วใครหล่ะจะยอมปล่อยอำนาจไปง่ายๆ

ฝูงห่านไซบีเรีย

ฝูงห่านไซบีเรียสอนเราว่า “เป็นผู้นำต้องรู้จักเสียสละ”
        ทุกฤดูหนาวฝูงห่านไซบีเรียนับร้อยจะจัดกลุ่มเตรียมบินอพยพหนีหนาวไปยังดินแดนที่แสนไกล บินอยู่เหนือน่านฟ้าหลายพันฟุต การบินเป็นรูปตัว V อาศัยหลักพลศาสตร์จากกระแสลมที่ซับซ้อน ห่านผู้นำจะเป็นตัวที่เหนื่อยที่สุด การบินในลักษณะนั้น ทำให้นกแต่ละตัวได้ประโยชน์จากลมส่งที่เกิดจากการกระพือปีกของตัวหน้า ขณะเดียวกันก็หลบไม่ไปบังลมจากกระแสลมต้านด้วย เพิ่มประสิทธิภาพการบินให้กับฝูงห่านได้ถึง 71% เมื่อเทียบกับการบินโดยลำพัง เมื่อผู้นำของฝูงห่านเริ่มอ่อนล้าภายหลังจากการบินมานาน มันจะบินไปอยู่ส่วนท้ายของตัว V ในขณะที่ยังมีห่านอีกตัวหนึ่งมารับหน้าที่เป็นผู้นำแทนการผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้นำ ผลัดเปลี่ยนกันเสียสละ ผลัดเปลี่ยนกันแก้ไขปัญหาและภาระที่ยุ่งยากด้วยความรู้และทักษะที่เรามี หลักการบินของฝูงห่านไซบีเรียนี้เอง เป็นหนึ่งในต้นแบบที่ถูกนำปรับใช้เป็นจิตวิทยาองค์กร โดย ดร. ลีโอนาร์ด โยง นักจิตวิทยาชื่อดังชาวมาเลเซีย

ฝูงห่านไซบีเรียสอนเราว่า “การประคับประคองหัวใจเป็นสิ่งสำคัญ”
        ในขณะที่ฝูงห่านบินเป็นรูปตัว V เพื่อนห่านจะส่งเสียงร้อง เพื่อให้กำลังใจ พร้อมกับ ช่วยกันรักษาระดับความเร็วให้คงที่ทุกคำพูด จะช่วยกระตุ้นให้กำลังใจให้ห่านในฝูง ห่านที่เจ็บป่วยหรือเหนื่อยล้าจากการบิน มันจะหลุดออกจากฝูง โดยจะมีห่านจำนวนหนึ่งบินเลียบออกจากฝูงและบินเคียงข้างไปกับห่านที่อ่อนแอ พวกมันจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันไปตลอดทาง จนกระทั่งห่านที่ป่วยนั้นแข็งแรงขึ้นและพร้อมกับกลับเข้าฝูงรูปตัว V อีกครั้งหนึ่ง

        ทั้งหมดทั้งมวลจนมาถึงตอนนี้คงยังสรุปไม่ได้ว่าห่านเหล่านี้ได้หลักการทำงานแบบนี้มาจากไหน อาจจะมาจากพฤติกรรมตามธรรมชาติหรือสภาพแวดล้อมบีบบังคับคงยังไม่มีใครตอบได้ แต่สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ออฟฟิศอย่างเราได้เรียนรู้จากมันคือ การบินของฝูงห่านเปรียบได้กับการทำงานเป็นทีมที่ต้องมีผู้นำการตัดสินใจเพื่อให้ขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า ผู้นำก็เหมือนกับหัวหน้าของฝูง ย่อมมีบางเวลาที่อ่อนแรงและอ่อนล้า ไม่มีใครเก่งอยู่ตลอดเวลา การยอมรับให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำบ้างในบางเวลาก็ไม่ใช่สิ่งที่เสียหาย อาจจะมีการอ่อนล้าไปบ้างตามประสาเส้นทางที่แสนทรหดยาวนาน สิ่งสำคัญคือสนับสนุนกันและกันในวันที่เผชิญปัญหา เพราะสุดท้ายแล้วยังคงมีวันที่สดใสมีผืนดินแสนอบอุ่นรอเราอยู่ปลายทางเสมอ

อ้างอิง
http://bitly.ws/jGgn
http://bitly.ws/jGgo
http://bitly.ws/jGgq

Share

Authors

Authors

RELATED POSTS