อาการปวดท้องประจำเดือน โรงเรียนทั่วโลกควรทำอย่างไร
Marcus Alleyne คุณพ่อจากเมืองคอร์นวอล ประเทศอังกฤษ จัดแคมเปญหารายชื่อให้ผู้ปกครองร่วมลงนามอนุญาตให้นักเรียนสามารถหยุดเรียนด้วยเหตุผลปวดท้องประจำเดือนได้
โดยเขาได้รับลายเซ็นมากกว่า 60,000 รายชื่อที่เห็นด้วย สาเหตุของเรื่องนี้คือการปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรงของลูกสาวทำให้เขาติดต่อโรงเรียนเพื่อขอลาป่วย แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาติโดยได้รับคำตอบว่า “หากเป็นโรคอื่นหรืออาการอื่นจะสามารถบันทึกว่าเป็นอาการป่วยได้มากกว่าอาการปวดประจำเดือน” Marcus Alleyne ได้เขียนในแคมเปญรณงค์ในเวปไซด์ change.org ไว้ว่าอาการปวดประจำเดือนเป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องเจอ และคิดว่าตราบใดที่การมีประจำเดือนส่งผลต่อการอยู่รอดต่อเผาพันธุ์มนุษย์ อาการปวดท้องประจำเดือนก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ
เมื่ออาการปวดท้องประจำเดือนเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในโรงเรียนควรทำอย่างไร
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นซิดนีย์ในออสเตรเลียได้ตรวจสอบผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง 21,573 คนจากทั่วโลก จากงานวิจัย 38 เรื่อง เขาพบว่าอาการปวดท้องประจำเดือนส่งผลกับผลการเรียน โดยผู้เข้าร่วมประมาณ 20% บอกว่าต้องขาดเรียนเนื่องจากปวดประจำเดือน ประมาณ 41%กล่าวว่าไม่มีสมาธิในห้องเรียนหรือการทำข้อสอบ และยังส่งผลต่อกิจกรรมอื่น ๆ ในโรงเรียนอีกด้วยซึ่งจากงานวิจัยกล่าวเพิ่มเติมว่าการปวดท้องประจำเดือนส่งผลต่อความสามารถในการมีสมาธิกับการเรียนรู้ในชั้นเรียน หรือส่งผลให้ขาดเรียน และอาจส่งผลต่อความสำเร็จในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยผลกระทบนี้อาจเริ่มต้นที่โรงเรียนและส่งผลต่อการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
นอกจากนั้นแบบสำรวจออนไลน์ทั่วออสเตรเลียยังรวบรวมข้อมูลจากวัยรุ่นและหญิงสาวจำนวน 4,202 คน อายุ 13-25 ปี ซึ่งอยู่ที่โรงเรียนหรือระดับอุดมศึกษา พบว่าผู้หญิงมากกว่าครึ่ง (60%) รู้สึกไม่สบายใจที่จะพูดคุยกับครูหรืออาจารย์เกี่ยวกับอาการปวดนี้ และการสำรวจยังพบว่า เกือบ 3 ใน 4 ปวดท้องประจำเดือนเป็นประจำ ประมาณครึ่งหนึ่งมีอาการเหนื่อยล้า และมากกว่า 1 ใน 3 มีการภาวะอารมณ์ที่แปรปรวน ส่งผลต่อการขาดงานหรือไปเรียน ซึ่งอาการเหล่านี้อาจส่งผลต่อช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตการศึกษาของพวกเขาในระยะยาว
ในอัฟกานิสถานและเนปาลเด็กผู้หญิงประมาณ 30% ขาดเรียนในช่วงเวลาที่มีประจำเดือน บางคนอาจพลาดโอกาสในการเรียนมากถึง 20% ของเทอมที่เรียน John Guillebaud ศาสตราจารย์ด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ที่ University College London บอกว่าผู้ป่วยบางรายอธิบายว่าอาการ “ปวดท้องประจำเดือนนั้น “แย่พอ ๆ กับอาการหัวใจวาย” นอกจากนั้น นักเรียนหลายคนยังต้องเจอกับภาวะความเจ็บปวดนี้ แค่จะลุกจากเตียงยังทำได้ยาก เพราะฉะนั้นการเดินไปเรียนและนั่งฟังบรรยายเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย นอกจากนั้นอาจจะมีอาการ อาเจียน เป็นลม มีซีสต์ และไมเกรนอย่างรุนแรง รวมถึงอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย หลายคนยอมรับความเจ็บปวดนี้ว่าเป็นเรื่อง ‘ปกติ’
เด็กส่วนใหญ่ยังคงต้องทนต่ออาการปวดท้องประจำเดือนและไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงแม้ว่าจะมีอาการรุนแรงก็ตาม
เพราะพวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องอดทนกับมัน มีเด็กในโรงเรียนเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่เคยได้ยินเกี่ยวกับโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งโรคนี้อาจทำให้เกิดอาการปวดและมีปัญหาในการสืบพันธุ์ หากไม่รักษาก็ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เด็กส่วนใหญ่ยังมีความรู้เรื่องการมีประจำเดือนยังไม่มากพอ
นอกจากนั้น ดร. Armour นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นซิดนีย์ได้พบว่า ผู้หญิงจำนวนมากในออสเตรเลียมีอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรงแต่ไม่รู้ว่าจะดูแลตัวเองอย่างไร หรือไม่สามารถระบุอาการปวดประจำเดือนที่ผิดปกติได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงจำนวนมากจึงต้องทนทุกข์จากความปวดนี้โดยไม่จำเป็น ศาสตราจารย์ Kathryn Holmes แห่งมหาวิทยาลัย Western Sydney จาก School of Education กล่าวว่า การพัฒนาทักษะด้านสุขภาพของเด็กผู้หญิงในการสื่อสารปัญหาด้านสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเรียนรู้ที่จะจัดการกับอาการปวดท้องประจำเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดผลกระทบต่อการเรียน
ผลวิจัยเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ครู หรือโรงเรียน จำเป็นต้องให้ความรู้เกี่ยวกับการมีประจำเดือนเพื่อให้เด็กผู้หญิงเข้าใจถึงสภาพร่างกาย การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และสนับสนุนพวกเขาเมื่อต้องเผชิญภาวะความเจ็บปวดจากการมีรอบเดือน และควรเพิ่มความตระหนักในหลักสูตรการศึกษา จำเป็นต้องมีความชัดเจนมากขึ้นและให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ ได้รับการให้ความรู้อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ครูต้องจัดเวลาให้เด็ก ๆ ที่พลาดบทเรียนไปเนื่องจากมีอาการปวดท้องประจำเดือนเพื่อได้รับการสอนเพิ่มเติม โรงเรียนควรมีโปรแกรมการให้ความรู้เรื่องการมีประจำเดือน ทั้งแบบตัวต่อตัวหรือแบบออนไลน์ เพื่อช่วยเด็ก ๆ ดูแลเรื่องเหล่านี้ การมีประจำเดือนและอาการปวดประจำเดือนเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ใช่ปัญหาของเด็กผู้หญิงเพียงอย่างเดียว พ่อแม่หรือเพื่อนต่างเพศเองก็ควรช่วยกันดูแลและสนับสนุนเด็ก ๆ เพื่อให้พวกเขาผ่านความเจ็บปวดไปให้ได้
อ้างอิง
- https://bit.ly/3lnK23z
- https://bit.ly/3FwhSve
- https://bit.ly/3ajWET9
- https://bit.ly/3iIZtS6
- https://bit.ly/2YtyOSM
- https://bit.ly/3FrOQNw
- https://bit.ly/3lnaI4v
- https://bit.ly/3iOZLqU
