โกงข้อสอบพฤติกรรมที่เกิดจากเด็ก หรือ ระบบการเรียน

A A
Dec 20, 2022
Dec 20, 2022
A A

โกงข้อสอบพฤติกรรมที่เกิดจากเด็ก หรือ ระบบการเรียน

 

   

  • การโกงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำในโรงเรียนหลายแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ตามหาวิทยาลัยชั้นนำ คนทั่วสหรัฐอเมริการะหว่างปี 2545-2558 พบว่า 58 เปอร์เซ็นต์มีการโกงข้อสอบ 64% ลอกข้อสอบ ในขณะที่ 95 เปอร์เซ็นต์ยอมรับว่ามีการโกงทุกรูปแบบ
  • ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีการโกงในชั้นเรียนที่พวกเขาไม่ชอบ และเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เช่นคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เป็นต้น Anderman ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาการศึกษา ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่านักเรียนชอบหรือไม่ชอบอะไร แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับนักเรียนอยู่ดีว่าพวกเขาจะโกงหรือไม่ ครูเองก็มีส่วนช่วยลดความโกงของนักเรียนได้โดยการออกแบบชั้นเรียนที่เน้นการเรียนรู้มากกว่าการท่องจำ
  • หลายครั้งที่เรามักตัดสินนักเรียนที่ขี้เกียจ และไม่ตั้งใจเรียนว่ามักจะเป็นนักเรียนที่โกงข้อสอบเพื่อให้พวกเขาสอบผ่านแต่จริง ๆ แล้วในงานวิจัยได้บอกว่าการโกงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขี้เกียจ แต่กลับสลับกับคนที่มีความขยันมักจะโกงข้อสอบเพื่อความก้าวหน้าของตัวเอง 

 

 

     ปฏิเสธไม่ได้ว่าในห้องเรียนเรามักจะมีเหตุการณ์ลอกการบ้าน ลอกข้อสอบ หรือโกงข้อสอบเกิดขึ้น การโกงจะมีอะไรบ้าง เช่น จดโพยเข้าห้องสอบ แอบเอาโทรศัพท์เข้าห้องสอบเพื่อหาข้อมูลในข้อสอบ วิธีการง่าย ๆ อย่างลอกข้อสอบเพื่อนก็พบเจอกันทั่วไปในห้องสอบ หรือเราจะเห็นทริคการลอกข้อสอบที่แยบยลจากเรื่อง ฉลาดเกมส์โกง ที่เรียกว่าทริคการโกงข้อสอบเยอะจนสามารถเอามาทำหนังได้เลย จากเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนต้องเคยผ่าน ทำให้โดนใจผู้คนมากมายและกลายเป็นหนังไทยที่ทำเงินสูงสุดบนเกาะฮ่องกงทำเงินทะลุ15.2 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 63 ล้านบาท) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  

 

 

ทำไมถึงต้องมีการโกงข้อสอบเกิดขึ้น ?

 

การโกงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำในโรงเรียนหลายแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ตามหาวิทยาลัยชั้นนำ

Josephson Institute’s Center for Youth Ethics report ในปี 2555 เปิดเผยว่านักเรียนมัธยมปลายมากกว่าครึ่งยอมรับว่าโกงข้อสอบ ขณะที่ 74% ยอมรับว่าลอกการบ้านเพื่อน และจากการสำรวจนักเรียนมัธยมปลาย 70,000 คน

 

คนทั่วสหรัฐอเมริการะหว่างปี 2545-2558 พบว่า 58 เปอร์เซ็นต์มีการโกงข้อสอบ 64% ลอกข้อสอบ ในขณะที่ 95 เปอร์เซ็นต์ยอมรับว่ามีการโกงทุกรูปแบบ

 

สถิติโกงข้อสอบ

ชื่อภาพ : สถิติการโกงข้อสอบ

 

 

     Anderman ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาการศึกษาและเป็นหัวหน้าภาควิชาการศึกษาที่รัฐโอไฮโอ Anderman ได้ศึกษาว่าทำไมนักเรียนถึงโกง และวิธีที่พวกเขาทำมานานกว่า 20 ปี งานวิจัยของเขาเกี่ยวข้องกับนักศึกษา 400 คนในมหาวิทยาลัย ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีการโกงในชั้นเรียนที่พวกเขาไม่ชอบ และพวกเขาเองก็ยอมรับกับการโกงนี้ เช่นในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เป็นต้น Anderman ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่านักเรียนชอบหรือไม่ชอบอะไร แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับนักเรียนอยู่ดีว่าพวกเขาจะโกงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม Anderman ได้บอกว่าคุณครูมีส่วนช่วยลดความโกงของนักเรียนได้โดยการออกแบบชั้นเรียนที่เน้นการเรียนรู้มากกว่าการท่องจำ

 

     David Rettinger รองศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่ University of Mary Washington และสมาชิกคณะกรรมการของ International Center for Academic Integrity ได้พูดถึงการโกงว่านักเรียนมีแนวโน้มโกงข้อสอบเมื่อพวกเขาไม่เห็นคุณค่าของการบ้านที่ได้รับมอบหมายเช่น การบ้านที่เน้นเนื้อหาแบบท่องจำ หรือข้อสอบเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่สูงเช่น ข้อสอบที่ไม่เคยสอนในชั้นเรียน หรือถ้าสอบไม่ผ่านในครั้งนี้ครั้งต่อไปก็จะยากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้นักเรียนที่มีผลการเรียนสูง ๆ จะรู้สึกดดันในการที่ต้องพยายามให้ได้เกรดดีเพื่อความสมบูรณ์แบบอาจหันไปใช้วิธีโกงเพื่อรักษาคะแนนสอบที่ดีไว้ และการวิจัยพบว่านักเรียนที่มักได้คำชมว่าฉลาดมากกว่าการยกย่องในความพยายามมีแนวโน้มที่จะโกงข้อสอบมากกว่า อาจเป็นเพราะพวกเขาแบกรับความคาดหวังจากสายตาผู้อื่นเอาไว้ก็เป็นได้

 

     ไม่เพียงแค่นั้นเทคโนโลยีเองก็มีส่วนสำคัญในการโกง การเล่น Social Media การรีทวิตทำให้เด็ก ๆ ให้ความสำคัญกับการมีอยู่ของความเป็นเจ้าของน้อยลงเพราะเกิดการรีทวิตข้อความไปเรื่อย ๆ จนอาจะทำให้ที่มาของข้อความไม่เจอ และเด็กรุ่นใหม่ยังมีการใช้อินเทอร์เน็ตช่วยในการทำการบ้าน เช่น เว็ปไซด์ช่วยทำการบ้านเป็นต้น ทำให้เด็ก ๆ หาเหตุผลเข้าข้างตัวเองในการโกงได้โดยคิดว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรที่ผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชั้นเรียนที่พวกเขาไม่ชอบ

 

 

โกงข้อสอบ

ชื่อภาพ : โกงข้อสอบ

 

 

แรงกดดันสาเหตุของการโกงข้อสอบ

 

ความกดดันคือแรงผลักดันเบื้องหลังการโกง ความลำบากในการรับมือกับความคาดหวังจากภายนอก

     และการไม่ยอมที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นนำไปสู่พฤติกรรมการโกงได้ โดยทั่วไปนักเรียนไม่ได้ต่อต้านการเรียนรู้ แต่แรงกดดันต่างหากที่ทำให้เด็ก ๆ เลือกที่จะโกงมากกว่าพยายามที่จะเรียนรู้ หากห้องเรียนสามารถทำให้พวกเขามุ่งมั่นในการเรียนรู้มากกว่าการวัดผลจากการสอบจะช่วยให้พวกเขาลดการโกงข้อสอบลง แต่อย่างไรก็ตามความสำเร็จมักวัดจากเกรดเฉลี่ย  นักเรียนจึงมีแนวโน้มที่จะ “เน้นประสิทธิผล” มากกว่า “เน้นการเรียนรู้ ” 

 

หลายครั้งที่เรามักตัดสินนักเรียนที่ขี้เกียจ และไม่ตั้งใจเรียนว่ามักจะเป็นนักเรียนที่โกงข้อสอบเพื่อให้พวกเขาสอบผ่านแต่จริง ๆ แล้วในงานวิจัยได้บอกว่าการโกงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขี้เกียจ แต่กลับสลับกับคนที่มีความขยันมักจะโกงข้อสอบเพื่อความก้าวหน้าของตัวเอง สภาพแวดล้อมการแข่งขันเองก็มีส่วนทำให้เกิดการโกงได้เช่นกัน

 

ความก้าวหน้าคือเหตุผลสำคัญที่สุดของการโกง

 

     นักเรียนรู้สึกว่างาน หรือข้อสอบที่ได้รับไม่มีความหมายสำหรับพวกเขาชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยต้องเผชิญในการขาดการเชื่อมโยงระหว่างหลักสูตรที่เรียนกับอาชีพในอนาคตของพวกเขา

     Corey Seemiller นักวิจัยระบุว่า นักศึกษาต้องการคำแนะนำที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในอาชีพการงานและสามารถช่วยให้พวกเขาก้าวหน้าในสาขาของตนได้ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าเหตุผลสำคัญที่สุดของการโกงคือ ความอยากที่จะก้าวหน้า หากครูสามารถจับคู่หลักสูตรที่นักเรียนได้เรียนรู้เชื่อมโยงเข้ากับอาชีพในการทำงานในอนาคตได้ แสดงว่าคุณครูกำลังพานักเรียนไปในทางที่ถูกต้อง การศึกษาอื่น ๆ ก็พบเช่นเดียวกันว่า“ความปรารถนาที่จะก้าวไปข้างหน้า” คือเหตุผลสำคัญในการโกงหากความปรารถนานี้สามารถจับคู่กับหลักสูตรที่นักเรียนรับรู้ และเข้าใจตามความเหมาะสมในอาชีพการงาน แสดงว่าครูกำลังนำนักเรียนไปในทางที่ถูกต้อง 

 

อ้างอิง

 

https://blog.joinknack.com/why-students-cheat

https://www.edutopia.org/article/why-students-cheat-and-what-do-about-it/

https://learningenglish.voanews.com/a/cheating-us-colleges-and-universities/4095907.html

Share

Authors

Authors

RELATED POSTS