ผลสำรวจจากสหรัฐฯพบว่าอาชีพ “ครู” เครียดกว่าคนวัยทำงานอาชีพอื่น

A A
Jan 20, 2024
Jan 20, 2024
A A

 

 

ผลสำรวจจากสหรัฐฯพบว่าอาชีพ “ครู” เครียดกว่าคนวัยทำงานอาชีพอื่น

 

 

  • ครูในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะมีอาการวิตกกังวลมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับบุคลากรทางการแพทย์ และมากกว่าพนักงานออฟฟิศ 20% และมีความเครียดมากกว่าอาชีพอื่น 30% 
  • ครูเกือบครึ่งหนึ่งกล่าวว่าการทื่ต้องคอยสนับสนุนหรือดูแลผลการเรียนของนักเรียนเป็นสาเหตุหลักของความเครียด
  • ในปี 2024 ความเบื่อหน่าย ความวิตกกังวล และความเครียดอาจเพิ่มขึ้นอีกเพราะเมื่อมีครูลาออกจากงาน ครูที่ยังทำงานอยู่ยังคงต้องทำงานแทนครูผู้สอนที่หายไป ในขณะเดียวกันปริมาณงานก็ไม่ได้ลดลงและเงินเดือนยังคงเท่าเดิมจึงไม่แปลกใจที่ความเหนื่อยหน่ายจะเพิ่มขึ้น

 

   จากการสำรวจพบว่าครูมีแนวโน้มที่จะเครียดมากกว่า คนในอาชีพอื่น ๆ ถึง 2 เท่า โดยครูมีแนวโน้มที่จะเจอสภาวะเหนื่อยหรือซึมเศร้ามากกว่าประชากรวัยทำงานทั่วไป และไม่สามารถรับมือกับความเครียดจากงานได้ จากข้อมูลของ  RAND Corp.  สำรวจกลุ่มตัวอย่างพบว่าอาชีพครูมีแนวโน้มที่จะเครียด Burnout และมักเผชิญกับความเครียดจากงานอยู่บ่อยครั้ง จากการศึกษาของAmerican Educational Research Association พบว่าครูในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะมีอาการวิตกกังวลมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับบุคลากรทางการแพทย์ และมากกว่าพนักงานออฟฟิศ 20% และมีความเครียดมากกว่าอาชีพอื่น 30% 

 

 

teacher burnout

 

 

สัญญาณเตือนเกี่ยวกับความเครียดของครูมีดังนี้

 

1.ความอยากอาหารเปลี่ยนไป

2.น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลง

3.มีความวิตกกังวลหรือซึมเศร้า

4.มีความเหนื่อยล้า

5.การนอนหลับผิดปกติ

6.ผมร่วงผิดปกติ

7.ไม่มีความสุขในการทำงาน

8.ไม่มีความสุขแม้จะอยู่ในวันหยุด

 

   ครส่วนใหญ่ตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นอยู่ที่ดีเพราะความเครียดที่เกิดจากการทำงานบ่อยครั้ง ความสามารถในการรับมือกับความเครียด ซึมเศร้า เบื่อหน่าย ความสามารถในการเยียวยาตัวเองจากความเครียด ครูเกือบครึ่งหนึ่งกล่าวว่าการทื่ต้องคอยสนับสนุนหรือดูแลผลการเรียนของนักเรียนเป็นสาเหตุหลักของความเครียด นอกจากนี้พฤติกรรมของนักเรียนก็ส่งผลให้ครูมีความเครียดด้วยเช่นเดียวกันโรงเรียนมากกว่า 80 % พบว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาพฤติกรรมของนักเรียนแย่ลง โดยผลการศึกษาของ NCES พบว่าพฤติกรรมของนักเรียนแย่ลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการหยุดชะงักในชั้นเรียนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเกเรของนักเรียนในห้อง 56% เกเรนอกห้องเรียน 49% และการไม่เคารพครูมากถึง48% นอกจากนี้ครู 2 ใน 3 ได้บอกว่าการต้องผิดชอบงานอื่น ๆ แทนเจ้าหน้าที่ที่ขาดแคลนทำให้รู้สึกเครียดเช่นเดียวกัน

แหล่งที่มาของความเครียดอันดับต้นๆ สำหรับครู

1.คอยสนับสนุนผลการเรียนของนักเรียน

2.การจัดการพฤติกรรมของนักเรียน

3.รับผิดชอบงานอื่น ๆ เพราะขาดแคลนบุคลากร

4.ดูแลสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ของนักเรียน

5.ใช้เวลาทำงานมากเกินไป

6.เงินเดือนน้อยเกินไป

7.รู้สึกเหมือนไม่สามารถบรรลุเป้าหมายและความคาดหวังของโรงเรียนได้

 

ในปี 2024 ความเบื่อหน่าย ความวิตกกังวล และความเครียดอาจเพิ่มขึ้นอีกเพราะเมื่อมีครูลาออกจากงาน ครูที่ยังทำงานอยู่ยังคงต้องทำงานแทนครูผู้สอนที่หายไป ในขณะเดียวกันปริมาณงานก็ไม่ได้ลดลงและเงินเดือนยังคงเท่าเดิมจึงไม่แปลกใจที่ความเหนื่อยหน่ายจะเพิ่มขึ้น 

 

สถิติความเหนื่อยหน่าย และความเครียดของครูอันดับต้นๆ ปี 2024

  • ครูระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นอาชีพที่ Burn out มากที่สุดอันดับ 1ในสหรัฐอเมริกา
  • 44% ของครูในโรงเรียนอนุบาลถึงมัธยมปลายรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่เสมอ
  • ครู 90% รู้สึกหมดไฟในการทำงาน
  • ครูมากกว่าครึ่งคิดว่าจะออกจากงานเร็วกว่าแผนเดิมที่คิดไว้
  • และค่าตอบแทนเป็น เหตุผลอันดับ 1 ที่ครูวางแผนที่จะลาออกจากงาน

โรงเรียนทำอะไรได้บ้าง

โรงเรียนบางแห่งในสหรัฐอเมริกาได้มุ่งเน้นไปที่โปรแกรมการบริการด้านสุขภาพจิตเพื่อช่วยให้ครูรับมือกับความเครียด และลดปัญหาด้านสุขภาพจิตให้เหลือน้อยที่สุด สนับสนุนให้เพิ่มเงินเดือนครู จ้างครูและเจ้าหน้าที่สนับสนุนในส่วนที่ว่างอยู่ และเพิ่มสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อพนักงาน ต้องยอมรับว่าในประเทศไทยความเครียดของครูไทยก็อาจไม่ต่างกันบ้าง เมื่อครูเป็นทรัพยกรที่ผลิตบุคลากรเพื่อมาพัฒนาประเทศชาติในอนาคต การเพิ่มสวัสดิการที่จำเป็นและการดูแลครูก็อาจเป็นหนทางที่ดีสำหรับทรัพยกรบุคคลที่สำคัญเช่นนี้

 

อ้างอิง : 

https://www.edweek.org/teaching-learning/the-teaching-profession-in-2023-in-charts/2023/12

https://districtadministration.com/11-reasons-why-stressed-out-teachers-and-principals-are-showing-up-for-work/

https://www.devlinpeck.com/content/teacher-burnout-statistics

Share

Authors

Authors

RELATED POSTS