ฟันผุ ปรากฎการณ์ที่สร้างผลกระทบทั่วโลก

A A
Nov 23, 2023
Nov 23, 2023
A A

 

ฟันผุ ปรากฎการณ์ที่สร้างผลกระทบทั่วโลก

 

  • สถิติน่าตกใจคือผู้คนเกือบ 3.5 พันล้านคนทั่วโลกได้รับผลกระทบจากโรคในช่องปาก ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ที่ไหน การศึกษา หรือรายได้เป็นอย่างไร และโรคภายในช่องปากสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่น ๆ 
  • ฟันผุในวัยเด็กส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีของทั้งเด็ก และผู้ปกครองเด็ก ๆ ในสหรัฐอเมริกาขาดเรียนสูงสุด 3 วันต่อปี และประมาณ 51 ล้านชั่วโมงเรียนของนักเรียนในสหรัฐอเมริกาหายไปเนื่องจากปัญหาในช่องปาก

 

คุณเคยฟันผุไหม ? แล้วอาการนี้ส่งผลอย่างไรต่อคุณบ้าง ? อ่านผ่าน ๆ แล้วอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติของการเติบโตที่ทุกคนล้วนต้องเจอ แต่หากเราจะบอกคุณว่ารายงานจาก Centers for Disease Control and Prevention (CDC) เด็ก ๆ ในสหรัฐอเมริกาขาดเรียนสูงสุด 3 วันต่อปี และประมาณ 51 ล้านชั่วโมงเรียนของนักเรียนในสหรัฐอเมริกาหายไปเนื่องจากปัญหาในช่องปากรวมไปถึงผู้ปกครองที่ต้องหยุดงานเนื่องจากปัญหาสุขภาพภายในช่องปากของบุตรหลาน ทำให้ส่งผลต่อการทำงานมากกว่า 164 ล้านชั่วโมงในแต่ละปี จากผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่าฟันผุในวัยเด็กส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีของทั้งเด็ก และผู้ปกครอง

 

ผลกระทบของฟันผุต่อสุขภาพทางอารมณ์

 

จากการสำรวจของผู้ปกครองในสหรัฐฯ พบว่าเด็กๆ ที่ประสบปัญหาสุขภาพช่องปากรู้สึกเขินอาย 30%กังวล 30% เศร้า28%และกระวนกระวาย 24% เด็กที่มีฟันผุยังรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถยิ้มได้อย่างเต็มที่ 27% และไม่มีสมาธิ 20% สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้เด็ก ๆ พลาดโอกาสทางการเรียนรู้ เล่น และเติบโต บรรดาเด็ก ๆ ที่มีปัญหาฟันผุ 1 ใน 3 ต้องพลาดกิจกรรมทางสังคมจากความไม่มั่นใจ ความเจ็บปวดจากฟันผุ และความโกรธผสมกันทำให้เด็ก ๆ พลาดเหตุการณ์สำคัญในชีวิต สุขภาพช่องปากอาจส่งผลต่อความสามารถของเด็กในการมีสมาธิในโรงเรียน พัฒนาการตามวัย หรือการเล่นกับเพื่อน ๆ เนื่องจากอาการปวดส่งผลต่อการศึกษา และการพัฒนาสังคม

 

ฟันผุส่งผลตั้งแต่วัยเด็กจนวัยผู้ใหญ่

 

สถิติน่าตกใจคือผู้คนเกือบ 3.5 พันล้านคนทั่วโลกได้รับผลกระทบจากโรคในช่องปาก ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ที่ไหน การศึกษา หรือรายได้เป็นอย่างไร และโรคภายในช่องปากสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ระบบทางเดินหายใจ และแม้แต่มะเร็งบางชนิด

 

อนาคตที่ดีเริ่มจากสุขภาพในช่องปากที่ดีได้เช่นกัน ด้วยความรู้ และเครื่องมือในปัจจุบันเด็ก ๆ สามารถดูแลสุขภาพในช่องปากของตัวเองได้อย่างง่ายดาย การให้ความรู้พวกเขา ความรู้ด้านสุขภาพในช่องปากเป็นกุญแจสำคัญทำให้สังคมมีสุขภาพดีขึ้น การทำความเข้าใจโรคในช่องปากให้มากขึ้น การเรียนรู้ ป้องกัน มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตที่มีสุขภาพดีขึ้น ในขณะที่เด็ก ๆ อยู่โรงเรียนมากกว่าที่บ้าน ครูจึงมีส่วนสำคัญอย่างมากในการดูแลสุขภาพในช่องปากของนักเรียน

 

 

tooth decay

ชื่อภาพ : Tooth Decay

 

 

วิธีการป้องกันฟันผุที่ผู้คนใช้ดูแลสุขภาพช่องปากกันทั่วโลกที่ครูควรเน้นย้ำกับเด็ก ๆ มีดังนี้

 

  1. แปรงฟันวันละสองครั้ง เป็นเวลาสองนาที ทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนความสำคัญของการแปรงฟันวันละสองครั้ง และฟลูออไรด์เป็นสารออกฤทธิ์เพียงชนิดเดียวที่หน่วยงานด้านสุขภาพยอมรับในการป้องกันฟันผุ ซึ่งเป็นมาตรฐานในการดูแล ครูควรสอนเให้เด็ก ๆ แปรงลิ้น ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน และใช้น้ำยาบ้วนปากตามความจำเป็น

 

  1. แปรงฟันตอนกลางคืน ถึงแม้ว่าการแปรงฟันวันละสองครั้งเป็นสิ่งสำคัญ แต่การดูแลฟันก่อนเข้านอนก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นเดียวกัน เนื่องจากแบคทีเรียบนฟันสามารถผลิตกรดได้ในขณะหลับซึ่งจะทำลายเคลือบฟัน การแปรงฟันก่อนนอนเป็นการกำจัดแบคทีเรียเพื่อปกป้องฟันขณะหลับ ที่โรงเรียนควรปลูกฝังให้เด็ก ๆ ได้เข้าใจถึงการแปรงฟันก่อนนอน และเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองเพื่อสุขภาวะทางอารมณ์ที่ดีของตัวเขาเอง

 

  1. ตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็กที่มีสุขภาพช่องปากที่ดีก็ควรพบแพทย์ทุก 6 เดือน เนื่องจากหมอสามารถทำความสะอาดฟันได้สะอาดและทั่วถึงมากกว่า รวมถึงสามารถระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ 

 

  1. ฟันผุเกิดขึ้นเมื่อแบคทีเรียในปากเผาผลาญน้ำตาลเพื่อสร้างกรดที่ทำลายเนื้อเยื่อแข็งของฟัน ดังนั้นน้ำตาลจึงเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของฟันผุ การเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลจึงเป็นทางลดโอกาสของฟันผุ

 

นอกจากการปรับปรุงความรู้ด้านสุขภาพช่องปากของประชากรทั่วไปแล้ว โรงเรียนก็ควรปลูกฝังให้เด็ก ๆ มีพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพเพื่อปรับปรุงสุขอนามัยในช่องปาก ส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ และส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของระบบให้ความสำคัญกับการดูแลช่องปากเป็นกิจวัตรเพื่อลดปัญหาฟันผุที่จะตามมาในอนาคต

 

อ้างอิง

https://www.colgatepalmolive.com/en-us/who-we-are/stories/childhood-cavities-health

https://www.weforum.org/agenda/2023/10/how-oral-health-impacts-health-equity/

Share

Authors

Authors

RELATED POSTS