Generative AI กับการปฏิวัติการเรียนรู้
- Generative AI เป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่สามารถสร้างเนื้อหาภาพ ข้อความ และภาพเคลื่อนไหวใหม่ ๆ ที่สมจริงได้อย่างรวดเร็ว มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีการศึกษาเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในปี 2564
- Generative AI ส่งผลให้เกิดการสร้างบทเรียนเฉพาะบุคคล เพื่อให้เด็กได้บรรลุศักยภาพของตนเอง
- แม้ว่า Generative AI จะมีศักยภาพมากในการปรับปรุงแนวทางปฏิบัติด้านการศึกษาแต่ก็อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นลบได้เช่นกัน ดังนั้นนักการศึกษาหรือครูควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของห้องเรียนและวิชานั้น ๆ รวมถึงควรสอนให้เด็กมีการตระหนักในการใช้เทคโนโลยีอีกด้วย
Generative AI เป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่สามารถสร้างเนื้อหาภาพ ข้อความ และภาพเคลื่อนไหวใหม่ ๆ ที่สมจริงได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีการลงทุนด้านการศึกษาเกิดขึ้นอย่างมากมาย
โดยพบการระดมร่วมทุนทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 500 ล้านดอลลาร์เป็น 7,000 ล้านดอลล่าร์
ระหว่างปี 2553 ถึง 2562 และมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีการศึกษาเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในปี 2564 แนวโน้มสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในด้านการศึกษานอกเหนือจากการเรียนออนไลน์แล้ว การประยุกต์ใช้ Generative AI ก็ทำให้แนวโน้มการเรียนรู้เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน Generative AI จะส่งผลให้เกิดการปฎิวัติการเรียนรู้ไปอย่างไรบ้าง
1.สร้างบทเรียนเฉพาะบุคคล
การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์สามารถช่วยลดภาระงานของครู เพื่อมอบประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับนักเรียน โดยเป็นการสร้างบทเรียนส่วนบุคคลเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักเรียนเช่น
- เทคโนโลยีการแปลงเสียงเป็นข้อความ ซี่งมีประโยชน์สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
- เทคโนโลยีการอ่านตัวหนังสือเป็นเสียง มีประโยชน์สำหรับเด็กที่มีความบกพร่องในการอ่าน
นอกจากนี้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยปรับปรุงการศึกษาให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลของนักเรียน เช่น ผลงานที่ผ่านมา ทักษะที่ถนัด หรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ เพื่อสร้างบทเรียนที่ช่วยให้เด็กได้บรรลุศักยภาพของตนเอง
2.การออกแบบหลักสูตร
Generative AI สามารถสร้างสถานการณ์จำลองทำให้ช่วยปรับปรุงประสบการณ์การเรียนรู้ ช่วยประเมินและปรับแต่งเนื้อหารูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียน เช่น ออกแบบฝึกหัดในการตอบโต้กับนักเรียน จับคู่กับเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้เพื่อให้นักเรียนได้ทำการทดลอง ช่วยให้มีส่วนร่วมกับวิชาได้ดีขึ้นหรือการทัศนศึกษาเสมือนจริง เช่นการท่องพิพิธภัณฑ์ผ่าน Google Art & Culture หรือการลงมือทำในรูปแบบ AR/VR ที่นำมาใช้ในวิชาวิทยาศาสตร์หรือการแพทย์ได้ และให้สังเกตผลด้วยตัวของนักเรียนเอง
3.การสร้างเนื้อหาสำหรับรายวิชา
Generative AI สามารถช่วยในการสร้างสื่อการสอนใหม่ ๆ เช่น แบบทดสอบ แบบฝึกหัด เหมาะกับชั้นเรียนที่ครูต้องการสร้างเนื้อหาจำนวนมากและหลากหลายสำหรับนักเรียน และสร้างสรรค์เนื้อหานอกหลักสูตรได้เช่น ลิสต์หนังสือที่ต้องอ่าน คู่มือการศึกษา คำถามสำหรับการสนทนาแลกเปลี่ยน บัตรคำศัพท์ AI ยังช่วยทำสคริปต์สำหรับวิดีโอเพื่อสร้างสื่อประกอบการสอนเพื่อตอบสนองความต้องการของวิชานั้น ๆ ได้อีกด้วย
4.ฟื้นฟูสื่อการเรียนรู้เก่า
Generative AI สามารถปรับปรุงคุณภาพของสื่อการเรียนรู้เก่าเช่น ภาพถ่าย ภาพยนตร์ เอกสารที่เก่าแก่ โดยใช้ AI ในการปรับปรุงความละเอียด ส่งผลในการดึงดูดนักเรียนในการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น และนำไปสู่การเข้าใจเนื้อหาที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ดีขึ้น
5.สอนพิเศษ
จากความฉลาดของ Generative AI ทำให้นักเรียนสามารถตอบโต้ได้อย่างเสมือนจริง รวมถึงยังเรียนได้แบบเรียลไทม์ ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งสามารถใช้Generative AI ในการตอบโต้ และสร้างสภาพแวดล้อมการสอนแบบเสมือน หรือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเรียนรู้แบบเห็นหน้ากันเป็นประโยชน์สำหรับเด็กที่ไม่สามารถเข้าถึงการสอนแบบตัวต่อตัวได้
แม้ว่า Generative AI จะมีศักยภาพมากในการปรับปรุงแนวทางปฏิบัติด้านการศึกษาแต่ก็อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นลบได้เช่นกัน เช่น ข้อมูลที่เป็นเท็จ ความเสี่ยงในการว่างงานของครู
ความท้าทายด้านจริยธรรม ดังนั้นนักการศึกษาหรือครูควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของห้องเรียนและวิชานั้น ๆ รวมถึงควรสอนให้เด็กมีการตระหนักในการใช้เทคโนโลยีอีกด้วย
อ้างอิง
https://research.aimultiple.com/digital-transformation-in-education/