สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.8
ทำไม MIT ถึงเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลกยาวนานถึง 10 ปี

        จากการจัดอันดับของ QS World University Rankings 2023 โดยเฟ้นหามหาวิทยาลัยจากทั่วโลกคัดเลือกมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดเกือบ 1,500 แห่ง และนำมาจัดอันดับด้วยเกณฑ์ดังนี้

• • • • • • ชื่อเสียงทางวิชาการ
          • ชื่อเสียงของนายจ้าง
          • การอ้างอิงต่อคณะ
          • อัตราส่วนนักศึกษาคณะ
          • อัตราส่วนคณะนานาชาติ
          • อัตราส่วนนักศึกษาต่างชาติ
          • เครือข่ายการวิจัยระหว่างประเทศ
          • ผลการจ้างงาน

ในการประเมินดังกล่าว ประเมินให้สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ Massachusetts Institute of Technology: MIT  เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลกกว่า 10 ปีซ้อน

       MIT มีชื่อเสียงระดับโลกในการผลิตบัณฑิตทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และวิศวกรรมที่ถือว่าเป็นอาชีพแห่งอนาคต ด้วยการคัดเลือกเข้าเรียนที่เข้มงวด ในปี 2023 มีนักศึกษา 21,312 คนสมัครเข้าเรียนที่ MIT แต่ตอบรับนักศึกษาเพียง 1,410 คนเท่านั้น อัตราการตอบรับโดยรวมอยู่ที่ 6.6% และปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งที่คุณภาพการสอนของ MIT ยังคงเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลก คือทรัพยากรเงินทุน กล่าวได้ว่า MIT เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่ค่าเทอมสูงมาก เฉลี่ยแล้วสูงถึง  1.5 ล้านบาทต่อใบปริญญา รายได้จากค่าเล่าเรียนรวมในปี 2564 สูงถึง  27,400 ล้านดอลลาร์ และยังมีรายได้จากทรัพย์สินทางปัญญาและสิทธิบัตรอีก 72.8 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังได้รับการบริจาคสนับสนุนจากศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยทำให้ไม่ขาดแคลนเงินทุนในการพัฒนาศักยภาพ สามารถจัดสรรทรัพยากรสำหรับการพัฒนานักศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลือกเฟ้นอาจารย์อันดับหนึ่งจากสาขาวิชานั้น ๆ มาสอนนักศึกษา มีเงินทุนในการสนับสนุนงานวิจัยต่าง ๆ เพื่อค้นคว้า และทดลองสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ สร้างประสบการณ์ให้กับนักศึกษา พร้อมทุนการศึกษาให้เด็กที่มีความสามารถ กว่า 90 % ของนักศึกษา MIT เป็นเด็กเก่ง และเรียนดีที่ได้รับทุนการศึกษา ที่เหลือคือเด็กมีฐานะที่ผลการเรียนดีไม่จำเป็นต้องขอทุน ทำให้ MIT มีชื่อเสียงที่รับประกันได้ว่าบัณฑิตที่จบไปจะเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความสามารถ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ และต่อยอดความรู้ได้

ยกตัวอย่างวัฒนธรรมหนึ่งของ MIT มีการส่งเสริมการให้นักศึกษาก่อตั้งธุรกิจแบบ Start-Up ตั้งแต่ปี 1991 ให้แข่งขันแผนธุรกิจประจำปี MIT $100K Entrepreneurship competition มีกิจกรรมนอกหลักสูตรเสริมทักษะการเป็นผู้ประกอบการสำหรับนักเรียนที่สนใจ

จากการสำรวจของ Kauffman foundation พบว่าศิษย์เก่า MIT ก่อตั้งบริษัทราว 25,800 บริษัท สร้างรายได้ต่อปีราว 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับรายได้ของประเทศต่าง ๆ (GDP) เสมือนว่าเป็นประเทศที่มี GDP สูงอันดับที่ 11 ของโลก

ศิษย์เก่า และผลงานของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลก

          ลองมาดูตัวอย่างผลงาน และเหล่าศิษย์เก่า MIT ที่มีชื่อเสียง และสำคัญต่อโลกมีศิษย์เก่า และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยผู้ได้รับรางวัลโนเบลถึง 98 คน ได้รับเหรียญวิทยาศาสตร์แห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (National Medal of Science) 58 คน ได้ทุนการศึกษาโรดส์ สคูลาร์ส 48 คน เป็น MacArthur Fellow 50 คน เป็น Fields Medalists 8 คน

ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยในปี 1861 ได้มีส่วนร่วมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และเศรษฐกิจของประเทศ

ยกตัวอย่างในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และ MIT ได้มีส่วนร่วมในงานวิจัยทางทหาร เช่น พัฒนาระบบเล็งปืน เล็งเป้าทิ้งระเบิด เรดาร์ การถ่ายรูปความเร็วสูง เป็นต้น หลังสงครามสิ้นสุด MIT กลายเป็นสถาบันด้านการวิจัย และพัฒนา (R&D) ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ในช่วงสงครามเย็นได้เข้าร่วมการวิจัยทางอวกาศมีส่วนร่วมในการส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ในโครงการอพอลโล

 Buzz Aldrin หนึ่งในนักบินอวกาศกลุ่มแรกที่ได้เหยียบพื้นดวงจันทร์ก็เป็นศิษย์เก่าของ MIT 

ภาพประกอบข้อมูล Buzz_Aldrin

หรือทางด้านการประดิษฐ์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนามาให้เราใช้ในปัจจุบันอย่างคอมพิวเตอร์ที่ตอบสนองต่อคำสั่งทันที (real-time computer) และมีหน้าจอแสดงภาพเครื่องแรก ‘Whirlwind’ ก็ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นที่ MIT ในช่วงปี 1950

ภาพประกอบข้อมูล Whirlwind

ในปัจจุบัน MIT ยังมีการประดิษฐ์ และพัฒนาเทคโนโลยีที่น่าสนใจออกมาอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น วัสดุ ‘2DPA-1’ ด้วยเทคโนโลยีโพลีเมอร์ 2 มิติ ทำให้ได้วัสดุที่เบาเหมือนพลาสติกแต่มีความแข็งแรงแตกหักยากกว่าเหล็กถึง 2 เท่า ต้านทานการเสียรูปมากกว่ากระจกกันกระสุน 4-6 เท่า โดย MIT ใช้เวลาในการวิจัยกว่า 10 ปี วัสดุนี้กล่าวได้ว่าสามารถนำมาใช้แทนเหล็กในการก่อสร้าง และผลิตยานยนต์ ทลายข้อจำกัดต่าง ๆ ในอนาคตออกไปได้มาก 

ภาพประกอบข้อมูล 2DPA-1

นอกจากนี้ยังโดดเด่นในเรื่องของวิศวกรรม กับตัวอย่างของศิษย์เก่าต่างชาติของ MIT อย่าง IM Pei ( Ieoh Ming Pei) สถาปนิกชาวจีนที่เข้าศึกษาคณะวิศวกรรมสถาปัตยกรรม ใน MIT เขาสร้างผลงานสถาปัตยกรรมระดับโลกมากมาย หนึ่งในนั้นคือผลงานที่เป็นที่พูดถึงอย่างพีระมิดแก้วสามเหลี่ยมหน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ณ กรุงปารีส 

ภาพประกอบข้อมูล I-M-Pei

ในประเทศไทยเราก็มีบุคคลคุณภาพที่มีชื่อเสียงจบการศึกษาจาก MIT และเป็นบุคคลที่เป็นทรัพยากรในการพัฒนาประเทศ

ยกตัวอย่างเช่น ผู้ว่ากรุงเทพมหานครฯ  คนปัจจุบัน อย่าง คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จบปริญญาโทในสาขาวิศวกรรมโครงสร้าง จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) หรือ คุณสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 และเคยเป็นนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) จบการศึกษาระดับปริญญาโท จากสาขานโยบาย และเทคโนโลยี  MIT สหรัฐอเมริกา และระดับปริญญาเอก จากสาขาวิศวกรรมโยธา และสิ่งแวดล้อม MIT สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

พออ่านมาถึงตรงนี้ก็ทำให้เห็นภาพชัดขึ้นเลยใช่ไหมครับ ว่าทำไม MIT ถึงเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลกกว่า 10 ปีซ้อน

อ้างอิง

https://www.topuniversities.com/university-rankings/world-university-rankings/2023
https://www.topuniversities.com/qs-world-university-rankings/methodology
https://www.bangkokbiznews.com/columnist/977636
https://www.pttgrouprayong.com/newsroom/ptt-group-sharings/
https://th.wikipedia.org/wiki/
https://campus.campus-star.com/variety/104417.html
https://www.britannica.com/topic/Massachusetts-Institute-of-Technology
https://positioningmag.com/1336563
https://www.wegointer.com/2013
https://ivyleagueprep.com/mit/
https://www.topuniversities.com/universities/massachusetts-institute-technology-mit