คุณอ่านหนังสือนิทานให้ลูก ๆ ฟังบ่อยแค่ไหน จำครั้งสุดท้ายที่คุณอ่านหนังสือนิทานให้พวกเขาฟังได้หรือเปล่า อาจเป็นเมื่อวาน เมื่อสองวันก่อน เมื่ออาทิตย์ก่อน หรืออาจจะเดือนก่อน ทุกวันหลังกลับจากทำงานหรือเวลาก่อนนอน เราให้คุณค่ากับการอ่านหนังสือนิทานให้เด็ก ๆ ฟังมากแค่ไหน ทำไมนิทานถึงกลายเป็นหัวข้อที่ต้องตั้งคำถามและมีความจำเป็นสำหรับเด็ก ๆ ขนาดนั้น
การอ่านเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งที่พ่อแม่สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ลูก ๆ ยังเป็นทารกเพราะว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างนิสัยรักการอ่านและยังช่วยให้เริ่มต้นทักษะภาษาได้อย่างก้าวกระโดด เด็กเล็กเป็นฟองน้ำที่ซึมซับทุกสิ่งในสภาพแวดล้อมของพวกเขา แม้แต่เวลาเราเล่านิทาน จิตใจและสมองของพวกเขาก็ยังทำงาน โดยรับเอาทุกภาษาที่พวกเขาได้ยินและบทเรียนที่ตัวละครเรียนรู้ เมื่อเด็ก ๆ อายุได้ไม่กี่เดือน พวกเขาจะสามารถดูรูปภาพ ฟังเสียงต่าง ๆ และเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ รอบตัวรวมถึงเรียนรู้ความสำคัญของภาษาได้
เด็กเรียนรู้ภาษาก่อนที่พวกเขาจะอ่านหนังสือออกด้วยซ้ำ การอ่านออกเสียงทำให้กระตุ้นจินตนาการและขยายความเข้าใจโลกมากยิ่งขึ้น การอ่านออกเสียงจะช่วยให้เด็ก ๆ พัฒนาภาษาและทักษะการฟัง
การอ่านหนังสือให้พวกเขาฟังจะช่วยเพิ่มพัฒนาการทางสมอง เพิ่มสายใยระหว่างความสัมพันธ์มากขึ้น
Hutton นักวิจัยและกุมารแพทย์ที่โรงพยาบาลเด็ก Cincinnati Children’s Hospital ได้ศึกษาเด็ก 27 คน อายุประมาณ 4 ขวบเข้าไปในเครื่อง FMRI โดยเล่าเรื่องให้เด็กฟังด้วย 3 วิธีคือ เสียงเท่านั้น หนังสือนิทานพร้อมเสียงพากย์ และการ์ตูนแอนิเมชั่น
จากการวิจัยพบว่า ในสภาวะเฉพาะเสียงนั้นเด็ก ๆ เกิดการเชื่อมต่อภาษา แต่มีการเชื่อมต่อไปยังส่วนต่าง ๆ ยังน้อยเกินไปส่งผลให้เด็ก ๆ ต้องพยายามทำความเข้าใจในเรื่องที่เล่า
แอนิเมชั่น ถึงแม้จะมีกิจกรรมมากมายทั้งการรับรู้ภาพและเสียง แต่มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายต่าง ๆ ในสมองไม่มาก เด็ก ๆ ต้องใช้พลังงานในการค้นหาการตีความหมายจากภาพการ์ตูนแอนิเมชัน ทำให้พวกเขาเกิดความเข้าใจไม่มากในการตีความ
เด็ก ๆ จะสามารถทำความเข้าใจนิทานพร้อมเสียงพากย์ได้ดีที่สุด เพราะเกิดความเชื่อมโยงระหว่าง การรับรู้ภาพ การจินตนาการ และการรับรู้ทางภาษา ในเด็ก 3-5 ขวบ การจินตนาการและการรับรู้จะเริ่มต้นช้า ๆ และได้รับการฝึกฝนในการบูรณาการเข้ากับสมอง แต่การดูแอนิเมชั่นจะทำให้เด็ก ๆ อาจไม่ได้เกิดการฝึกฝนจินตนาการเหล่านี้ เมื่อพ่อแม่เริ่มอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง สมองของพวกเขาจะทำงานมากกว่าที่เห็น กล้ามเนื้อในสมองกำลังพัฒนาเพื่อให้ภาพในสมองของพวกเขามีชีวิตจิตใจตามที่พวกเขาจินตนาการ
โลกของหนังสือนิทานดีอย่างไร
การอ่านเป็นโอกาสที่ดีในการใช้เวลาร่วมกันภายในครอบครัว งานวิจัยพบว่าการอ่านนิทานสามารถสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกที่แข็งแกร่งได้ เด็ก ๆ รู้สึกปลอดภัยจากการสัมผัส การสบตา น้ำเสียงที่อบอุ่นแสดงความรักระหว่างเล่านิทาน และทำให้พวกเขามีทัศนคติเชิงบวกจากการอ่านหนังสือ
นอกจากนี้การอ่านหนังสือนิทานยังสามารถช่วยส่งเสริมความเข้าใจของเด็ก ๆ เกี่ยวกับโลก ทักษะทางสังคม และความสามารถในการเรียนรู้กลยุทธ์ในการเผชิญปัญหา
จากผลการศึกษาในปี 2013 พบว่าแม้แต่เด็กที่อายุเพียง 9 เดือน ก็สามารถได้รับประโยชน์จากการได้ยินเสียงที่พ่อแม่อ่านนิทานให้พวกเขาฟัง และยังช่วยให้มีทักษะทางภาษาและพัฒนาการทางความคิด เช่น การแก้ปัญหาในระดับที่สูงขึ้น การวิจัยในปี 2018 ชี้ให้เห็นว่าปฏิสัมพันธ์ทางวาจา (การอ่าน การพูด ฯลฯ) ระหว่างพ่อแม่และลูกจะส่งเสริมภาษาและคะแนน IQ ที่สูงขึ้นจากวัยเด็กไปจนถึงอายุ 14 ปี
ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์แห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาเด็กปฐมวัย การสอนและการเรียนรู้ได้อธิบายว่า การอ่านหนังสือให้เด็กฟังจะช่วยเพิ่มจำนวนและความหลากหลายของคำที่พวกเขาใช้ จากงานวิจัยพบว่า ผู้ปกครองที่อ่านหนังสือภาพ 1 เล่มกับลูกทุกวัน จะเป็นการเพิ่มคำศัพท์ให้พวกเขา 78,000 คำในแต่ละปี โดยรวมแล้ว 5 ขวบปีแรกก่อนเด็ก ๆ จะได้เข้าโรงเรียนอนุบาลพวกเขาจะสะสมคำศัพท์ระหว่างการอ่านหนังสือนิทานมากกว่าเด็กที่ไม่เคยอ่านมาก่อนถึง 1.4 ล้านคำ
แล้วเราควรเริ่มอ่านหนังสือนิทานให้เด็กฟังอย่างไรและเมื่อไหร่
ควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ วัยทารก วัยเตาะแตะ เด็กก่อนวัยเรียน และแม้แต่เด็กโต ล้วนได้รับประโยชน์จากการได้ฟังนิทานทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าเขาจะอ่านหนังสือเองได้แล้วแต่การอ่านหนังสือให้พวกเขาฟังก็ยังคงมีประโยชน์อยู่ โดยใช้เวลา 30 นาทีในแต่ละวัน หรือพ่อแม่สามารถฝึกเด็ก ๆ ได้โดยอ่านสิ่งที่นอกเหนือจากหนังสือเช่น ลองอ่านป้ายจราจร ป้ายโฆษณา ร้องเพลง หรือให้เด็ก ๆ อ่านหนังสือให้ฟัง
เพราะการอ่านเป็นการเปิดโลกใหม่ให้พวกเขาได้เห็นได้ยินสิ่งใหม่ที่น่าตื่นเต้นผ่านเรื่องราวต่าง ๆ เพิ่มความสัมพันธ์ และยังสำคัญต่อพัฒนาการทางปัญญา ภาษา และอารมณ์ทางสังคมของเด็ก ๆ อีกด้วย นอกจากนั้นยังเป็นสิ่งที่ช่วยให้พวกเขาพบเครื่องมือที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในชีวิตในอนาคตได้อีกด้วย อ่านจบก่อนนอนคืนนี้อย่าลืมใช้เวลากับเด็ก ๆ ของคุณให้มากที่สุด เพื่อทำให้พวกเขาเติบโตไปเป็นคนที่มีทักษะที่เข้มแข็งสำหรับโลกใบนี้
อ้างอิง
https://www.healthline.com/health/childrens-health/reading-to-children
https://www.readingrockets.org/article/reading-your-child
https://www.npr.org/sections/ed/2018/05/24/611609366/whats-going-on-in-your-childs-brain-when-you-read-them-a-story
https://iowaccrr.org/blog/2015/10/1/ccrr_blog/reading_is_one_of_the_greatest_gifts_you_can_give_children/ar/96/
