เดนมาร์ก เจาะลึกระบบการศึกษาสไตล์เมืองที่เจริญที่สุดในโลก

A A
Dec 13, 2023
Dec 13, 2023
A A

 

เดนมาร์ก เจาะลึกระบบการศึกษาสไตล์เมืองที่เจริญที่สุดในโลก

 

 

   เดนมาร์กเป็นประเทศที่มีความเจริญมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยดูได้จากการจัดอันดับโลก ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านคุณภาพชีวิต ขีดความสามารถในการแข่งขัน ความสมดุลระหว่างชีวิตและการ ทำงาน ระบบสวัสดิการ หรือความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม 

   ความน่าสนใจ คือ เดนมาร์กมีอัตราว่างงานอยู่เพียงแค่ 11% เท่านั้น ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในยุโรป และน้อยกว่าของสหรัฐอเมริกาเสียอีก โดยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเรียนจบเยอะที่สุดในโลก พร้อมกับมีอัตราอ่านออกเขียนได้สูงถึง 99% ของประชากรด้วยกัน

   “คุณภาพของประชากร” ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เดนมาร์กซึ่งเป็นประเทศเล็กแต่มีความเจริญอยู่ในแนวหน้าของโลก การวางรากฐานการพัฒนามาตั้งแต่วัยเด็ก ภายใต้ระบบการศึกษาที่เข้มแข็งและเปิดกว้างให้เด็กได้เล่นได้ใช้จินตนาการและความคิดได้อย่างอิสระเสรี ทำให้เด็กสนุกกับเรียนรู้และมีความสุขตามวัยของเด็กที่ควรจะได้รับในช่วงต้นของชีวิตและเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพในทุกช่วงวัย

 

 

การเรียนรู้ของมนุษย์มาจากประสบการณ์ที่สนุกและเพลิดเพลิน

 

   เดนมาร์กให้ความสำคัญกับครอบครัว ประชากร และการศึกษาที่มีคุณภาพสูง โดยมีปรัชญาการศึกษา คือ การเรียนรู้ของมนุษย์จากประสบการณ์ที่สนุกและเพลิดเพลิน การจัดการศึกษาเด็กเล็กจึงเน้นใน ด้าน play & learn สำหรับเด็กโตก็ยังคงเน้น play & learn แต่ใส่ภาคทฤษฎีเข้าไปด้วย โรงเรียนในเดนมาร์กใช้การเล่นหล่อหลอมให้เด็กรู้จักตนเอง มีความคิด สร้างสรรค์สูง กล้าแสดงความคิดเห็น มีความกระตือรือร้น ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันเป็นทีม ปลูกฝัง จิตสำนึกรู้หน้าที่ของตน มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมและอยู่ร่วมกันบนฐานของการไว้ใจซึ่งกันและกัน 

 

   เดนมาร์กจึงมีสถานฝึกครูซึ่งเรียกว่า PlayLab ในหลายเมือง เพื่อให้ครูได้คิดนอกกรอบโดยใช้ หลักการ “Play and Learn” ที่มุ่งเปลี่ยนความคิดครูที่สอนแบบดั้งเดิม โดยจัดให้ครูได้มีประสบการณ์ตรงจากการเล่นเครื่องเล่นต่างๆ เพื่อให้เข้าใจความรู้สึกของเด็กที่สนุกกับการเล่นและออกแบบแผนการสอนโดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Play Wheel ที่กระตุ้นให้เกิดการถกเถียงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแนวการสอน เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และทดลองจนเข้าใจทฤษฎีที่อยู่เบื้องหลังไปพร้อมกัน

 

   อีกหนึ่งยุทธศาสตร์ด้านนโยบายสำคัญของการศึกษาของเดนมาร์ก คือ ไม่มีการให้เกรดกับนักเรียนในช่วง 8 ปีแรกของการศึกษาเลย นั่นเพราะตามกฎหมายของพวกเขา เด็กทุกคนต้องได้รับการสนับสนุนจากโรงเรียน ให้มีพัฒนาการที่ดีในด้านต่าง ๆ เพื่อเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และแทบไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียนในระบบการศึกษาเลย เนื่องจากงบที่สนับสนุนส่วนนี้ล้วนมาจากภาษีที่ประชาชนจ่ายกันสูงถึงเฉลี่ย 45% ของรายได้เลยทีเดียว

 

   นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่เราตกใจกับตัวเลขเพดานภาษีประเทศเขามากขนาดนี้ แต่ในทางกลับกัน ประชาชนในประเทศเดนมาร์กเองกลับไม่มีใครแสดงความไม่พอใจเรียกร้องอะไรเลย เพราะพวกเขาทราบดีว่า เงินภาษีที่พวกเขาจ่ายกันนั้นไปอยู่ที่การพัฒนาการศึกษาที่เรียกได้ว่าครอบึคลุมตั้งแต่วินาทีแรกที่ลืมตาดูโลกไปจนถึงความสำเร็จการศึกษาจุดสูงสุดที่คน ๆ หนึ่งจะทำได้เลย

 

   งบการสนับสนุนด้านการศึกษาตั้งแต่ปฐมวัยถึงระดับมัธยม รัฐบาลจะสนับสนุนให้ประมาณ 170,000/คน/ปี แต่ไม่จบเพียงเท่านี้เมื่อเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย นอกจากจะเข้าศึกษาได้อย่างไม่เสียค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมีโอกาสได้รับเงินเดือนละ 30,000 บาทเลยด้วย

 

   ประเทศเดนมาร์กนั้นผู้คนจะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่นักเรียนในโรงเรียนและนักศึกษาในมหาวิทยาลัยจะต้องมีความสนุกกับการเรียน ไม่ได้เห็นว่าการเรียนเป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากที่ไม่มีที่สิ้นสุดและรอคอยเพียงวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น

ครูเดนมาร์กไม่ใช่เพียงผู้สอน แต่มีบทบาทสำคัญอยู่ 2 อย่างคือ การสร้างสถานการณ์เพื่อพัฒนานักเรียนโดยให้ฝึกครูให้คิดนอกกรอบด้วย PlayLab ปรับ Mindset ที่ใส่ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นของเด็กลงไปและร่วมตั้งโจทย์ตั้งคำถามที่เรียนรู้ไปพร้อมกับเด็ก สู่การหาข้อมูลคิดวิเคราะห์และหาทางออกหรือคำตอบในที่สุด และติดตามดูพัฒนาการของนักเรียนแต่ละคนและประเมินตามศักยภาพรายบุคคลแทนการทดสอบมาตรฐาน และให้ feedback เพื่อให้นักเรียนพัฒนาต่อโดยทำงานร่วมกับผู้ปกครอง

 

   ดังนั้นหน้าที่ของบุคลากรทางการศึกษาจึงเป็นไปได้มากกว่าการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ให้เป็นมากกว่าสนามเด็กเล่นของคนทุกวัย แต่เป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่คนทุกช่วงวัยสามารถใช้ร่วมกันได้ พัฒนาชุมชนเมืองกลายเป็นวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่ทุกคนมีร่วมกันได้

 

 

โรงเรียนของเดนมาร์ก

ชื่อภาพ : Denmark Education System

 

 

ว่ากันว่านักเรียนเดนมาร์กเป็น “นักเรียนที่มีความสุขที่สุดในโลก”

 

   เพราะอย่างที่เราบอกไปว่าระบบการศึกษาของโรงเรียนในประเทศเดนมาร์กนั้นมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนในเรื่องของการพัฒนาบุคลิกภาพของแต่ละคน และได้ทำการระบุออกมาเป็นกฎเลยว่าระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานนั้นไม่ควรที่จะให้แค่ความรู้เบื้องต้นกับความสามารถเท่านั้น แต่ควรที่จะช่วยในเรื่องของการพัฒนาจิตใจไปพร้อมกันด้วย

   โรงเรียนของเดนมาร์กจะมีวิชาที่ปลูกฝังความเห็นอกเห็นใจสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง สำหรับเด็กอายุ 6-16 ปี โรงเรียนจะให้ความสำคัญกับวิชานี้ไม่แพ้วิชาหลักอย่าง คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือภาษาอังกฤษ ในวิชานี้เด็ก ๆ จะรวมกลุ่มกันเพื่อพูดคุยถึงปัญหาของพวกเขา และเพื่อนๆรวมถึงครูก็จะช่วยกันหาทางออกอย่างเหมาะสม ด้วยการรับฟังและการยอมรับทำความเข้าใจ ส่วนถ้าวันไหนที่ไม่มีปัญหาอะไรมาคุยกัน เด็กๆ ก็จะแค่ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันอย่างไม่เคร่งเครียด รวมไปถึงปลูกฝังเรื่องค่านิยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการแข่งขัน ว่าเด็กไม่ควรแข่งขันกับเพื่อน ๆ แต่ควรแข่งขันกับตัวเองเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น โดยเฉพาะไม่ต้องเปรียบเทียบตัวเองกับใคร ตรงนี้จึงทำให้เด็กๆเดนมาร์กมีความสุขกับการเรียน ไม่กดดันตัวเอง คิดถึงคนอื่น ๆมากขึ้น และมีความเห็นอกเห็นใจ

   นอกจากนี้วิชาที่น่าสนใจอื่น ๆ นอกจากบรรดาวิชาพื้นฐานที่เราคุ้นเคยอย่าง คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์แล้ว งมีวิชาอย่าง ความปลอดภัยในการจราจร, เพศศึกษา, คหกรรมศาสตร์, การวางแผนครอบครัว กับวิชาอย่าง การงานอาชีพ และ สุขศึกษา ที่เน้นปฏิบัติจริง เป็นส่วนหนึ่งในวิชาภาคบังคับที่เด็กเดนมาร์กทุกคนต้องเรียนอีกด้วย

   เรื่องทั้งหมดนี้เราอาจต้องมองย้อนกลับไปถึงต้นตอนั่นก็คือ “ระบบการบริหาร”ในฐานะประเทศที่ปกครองด้วยสภาเดี่ยวภายใต้ระบบประชาธิปไตยเก่าแก่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ทุกอย่างที่เริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้ต่างต้องเริ่มต้นระบบการศึกษาทั้งนั้น เช่น อัตราการเกิดอุบัติเหตุในประเทศที่ลดลง จากนโยบายที่สนับสนุนการปั่นจักรยาน ลดขนาดของถนน และเพิ่มระบบขนส่งสาธารณะให้ดียิ่งขึ้น

   “เดนมาร์ก” อาจจะเป็นประเทศในแถบสแกนดิเนเวียนที่เล็กที่สุด มีมาตรฐานการครองชีพที่สูง แต่เป็นราคาที่คนส่วนใหญ่ยอมแลก ด้วยนโยบายที่เปิดกว้าง เห็นค่าความเป็นคนเท่ากัน ให้สิทธิคนต่างชาติด้านเช่นเดียวกับคนในท้องถิ่นซึ่งรวมไปถึงด้านการศึกษาด้วย เพราะประชาชนแห่งดินแดนโคนมนี้เชื่อว่า “การศึกษา คือ สิทธิที่ทุกคนได้มาแต่กำเนิด ไม่ใช่สิ่งที่ควรซื้อขายด้วยเงิน”

 

อ้างอิง

https://www.topuniversities.com/student-info/studying-abroad/why-copenhagen-one-happiest-student-cities-world

https://ehef.id/post/5-reasons-why-education-system-denmark-excellent

Share

Authors

Authors

RELATED POSTS