ความลับอะไรที่พาระบบการศึกษาจีนไปไกลแบบก้าวกระโดด

A A
Jun 27, 2023
Jun 27, 2023
A A

ความลับอะไรที่พาระบบการศึกษาจีนไปไกลแบบก้าวกระโดด

 

เมื่อเรามีคำถามว่าอะไรคือรากฐานในการพัฒนาให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า หนึ่งในคำตอบคงหนีไม่พ้น “ระบบการศึกษา” ซึ่งถ้าจะบอกแบบรวบรัดเลยก็คึอ หากประเทศไหนการศึกษาดี ทรัพยากรมนุษย์ประเทศนั้นจะดีตามไปด้วย 

 

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ มีประเทศหนึ่งที่เสมือนตื่นจากการหลับไหล เข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี จนวันนี้ กลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก มีการคิดค้น และสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีมากมาย ส่งออกไปตีตลาดทั่วโลก นั่นคือดินแดนพญามังกร “สาธารณรัฐประชาชนจีน” 

 

เริ่มจากนโยบายให้ “การศึกษา”มาก่อนเสมอ

 

ล่าสุดคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และสำนักงานใหญ่คณะรัฐมนตรีจีน ร่วมกันประกาศแผนปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ ต่อจาก “ยุทธศาสตร์พัฒนาการศึกษา 4 ด้าน” ของกระทรวงศึกษาจีนที่เพิ่งสิ้นสุดไปได้เพียงปีเดียว ซึ่งครั้งนี้แทนที่จะใช้เวลานานถึง 10 ปีเหมือนโครงการเดิมของกระทรวงศึกษา กลับรวบรัดต้องการเห็นผลภายใน 1 ปี 

 

โครงการนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า “ความเห็นเรื่องให้ลดภาระงานการบ้านของนักเรียนในระดับการศึกษาภาคบังคับ  และลดการเรียนพิเศษนอกโรงเรียน” เรียกสั้นๆ ว่า “นโยบาย 2 ลด” ทุกหน่วยงานทั่วประเทศที่เกี่ยวข้องได้รับคำสั่งให้นำนโยบายนี้ลงสู่การปฏิบัติ  และต้องรายงานผลให้ทราบแบบถี่ยิบทุก ๆ ครึ่งเดือน

 

เราจะเห็นได้ว่า คือ นโยบายที่ได้รับการสนุนอย่างจริงจังจากทางรัฐบาล ไม่ว่าจะมีการเสนอแผนพัฒนาแห่งชาติแผนใดรัฐบาลใดก็ตาม จะต้องมีการโฟกัสไปที่ระบบการศึกษาก่อนเสมอ โดยเฉพาะช่วง 10 ปีมานี้ มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับนโยบายการศึกษาของประเทศจีนครั้งยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวกับต่างชาติโดยตรงรวมถึงประเทศไทยด้วย นั่นก็คือ การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักศึกษาต่างชาติ รวมถึงกระตุ้นให้นักศึกษาจีนเองมีการพัฒนาศักยภาพให้เทียบเท่าสากล และส่งออกไปเรียนต่างประเทศเช่นกัน

 

ในแต่ละปีจีนให้ทุนแก่นักศึกษาต่างชาติมากกว่า 200 ทุนการศึกษา ทั้งระดับเรียนภาษา หลักสูตรระยะสั้น ระดับปริญญาตรี โท เอก  นักศึกษาไทยเองก็ได้ทุนการศึกษาจากจีน โดยเฉพาะทุนรัฐบาลจีน หรือที่รู้จักในชื่อ ทุน CSC นับร้อยคนต่อปี

 

 

ทำไมจีนให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาต่างชาติ ?

 

 

ทำไมจีนให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาต่างชาติ ? ให้ไปแล้วจีนจะได้อะไร ?

 

คำตอบคือ การลงทุนเพื่อพัฒนาในระยะยาวอย่างยั่งยืน

 

การให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาต่างชาติผู้มีความสามารถจากทั่วโลก โดยเฉพาะแถบอเมริกา ยุโรป จะทำให้คนจีนทั้งนักศึกษา คณาจารย์ในมหาวิทยาลัยนั้นๆได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองให้เทียบเท่าสากล

อีกทั้งยังได้เผยแพร่วัฒนธรรมจีน ทำให้มีนักศึกษาต่างชาติจำนวนมาก ได้รู้ภาษาจีน รู้วัฒนธรรมจีน และช่วยแผ่ขยายออกไปจำนวนมาก 

 

หากมองในแง่ของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยระดับนานาชาติ ปัจจัยเรื่อง “จำนวนนักศึกษาต่างชาติ และผลงานงานวิจัยที่ตีพิมพ์ระดับนานาชาติ” ล้วนมีผลต่อการจัดอันดับ ซึ่งมีผลโดยตรงจากการให้ทุนนักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนในจีน โดยเฉพาะช่วงหลังๆมีการให้ทุนเฉพาะด้านมากขึ้น อาทิ ทุนจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีน CAS ทุนจากสถาบันขงจื้อสำหรับวิจัยด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน เป็นต้น

 

การเปลี่ยนแปลงไปในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของโลกใบนี้ เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ส่วนหนึ่งมีผลมาจากการพัฒนาของจีน ซึ่งหลาย ๆ สิ่งจีนเองก็อาจจะไม่ใช่คนแรกที่คิดค้น

 

แต่จีนมองเห็นโอกาสในทุกครั้งที่มีสิ่งใหม่ๆเกิดมา แล้วนำมาเรียนรู้และพัฒนา โดยเฉพาะการจัดตั้งสถาบันการศึกษา หรือพัฒนาหลักสูตรขึ้นมาให้ทรัพยากรบุคคลในประเทศของตน เช่น การบรรจุหลักสูตรโปรแกรมมิ่งภาษา Python เพื่องาน AI และ Big Data สำหรับเด็กประถมและมัธยม เพราะปัจจุบันภาษาโปรแกรมกลุ่มนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในสังคมที่เดินหน้าด้วยเทคโนโลยี

 

เมื่อเห็นโอกาสด้านนี้ รัฐบาลจีนจึงริเริ่มจัดตั้งสถาบันการศึกษาทางด้านปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะ ตลอดจน หลายมหาวิทยาลัยดังในจีนพัฒนาหลักสูตรทางด้าน E-sport โดยตรง เพื่อตอบสนองธุรกิจด้าน Game ซึ่งเป็นตัวอย่างของนโยบายทางการศึกษาจีนที่เอื้ออำนวยและหลอมรวมไปกับเทคโนโลยีการพัฒนาประเทศได้เป็นอย่างดี 

 

นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าการสอบคัดเลือกเข้าสู่มหาวิทยาลัยจีนก็เข้มข้นมากจนได้ชื่อว่ายากที่สุดในโลก ซึ่งก่อให้เกิดการตื่นตัวและพัฒนาตนเองอยู่เสมอในหมู่เด็กและผู้ปกครองในจีน ซึ่งเรื่องรัฐบาลจีนเองก็มีนโยบายออกมาช่วยแก้ไข  โดยหัวใจสำคัญคือ การสอบคัดเลือกที่เข้มข้น แม้จะสร้างแรงกดดันต่อตัวเด็กและครอบครัว  แต่เราก็ต้องยอมรับว่านี่คือการปลูกฝังจนอยู่ในสายเลือดของคนจีน ให้มีการสู้ และดิ้นรน เพื่อให้มีชีวิตดีขึ้นจากการศึกษาที่ดี 

 

ฉะนั้นก็ไม่ต้องตกใจ

หากไปเรียนในจีนแล้วจะเจอคนจีนที่ขยันหามรุ่งหามค่ำ และต่อแถวเข้าหอสมุดตั้งแต่เช้ามืด

.

หลักฐานสำคัญที่ชี้ชัดว่าระบบการศึกษาจีนเริ่มเป็นที่ยอมรับของนานาชาติแล้ว คือ หลายมหาวิทยาลัยระดับท็อปในอเมริกา ยุโรป เช่น มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมของอังกฤษ ประกาศรับนักศึกษาจีนจากคะแนนสอบเอนทรานซ์จีน หรือเกาเข่า แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่นานาชาติมีต่อการศึกษาจีนนั่นเอง

 

นโนบายการศึกษายุคใหม่ ทำให้ปัญหาสมองไหลคลี่คลาย

 

คนจีนเก่งๆ พากันไปเรียนต่างประเทศและทำงานที่นั่นกันหมด โดยเฉพาะประเทศอเมริกา ถือเป็นปัญหาที่จีนเผชิญมาอย่างยาวนานหลายสิบปี อย่างที่มีการรายงานตัวเลขช่วงปี 2002 จนถึงราวปี 2007 พบว่า แต่ละปี คนจีนไปเรียนต่างประเทศมากกว่า 100,000 คนต่อปี แต่กลับไปทำงานที่จีนเพียง 20-30 % เท่านั้น

 

ข้อมูลจากปี 2018 ของ People’s Daily สื่อทรงอิทธิพลรายหนึ่งของจีน รายงานว่า นักศึกษาจีนที่ไปเรียนยังต่างประเทศ เริ่มกลับมาทำงานยังบ้านเกิดเมืองนอนหลังเรียนจบ เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม มากกว่า 83% มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012  โดยสาเหตุสำคัญมาจากความมั่นใจในเศรษฐกิจจีนและการพัฒนาของจีนที่ก้าวหน้าไปมากกว่าแต่ก่อน 

 

หากเราจะหาเหตุผลว่าทำไมการศึกษาจีนถึงได้พัฒนาอยู่ตลอด คงไม่มีคำอธิบายใดดีไปกว่า ความเชื่อของคนจีนที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่สมัยโบราณว่า “การศึกษาคือการเปลี่ยนสถานะและฐานะของตนที่ง่ายที่สุด”

 

Share

Authors

Authors

RELATED POSTS