คุณเป็นครูที่สร้างอารมณ์ขันในห้องเรียนบ่อยแค่ไหน

A A
Mar 8, 2024
Mar 8, 2024
A A

คุณเป็นครูที่สร้างอารมณ์ขันในห้องเรียนบ่อยแค่ไหน

 

  • อารมณ์ขันนอกจากจะเป็นเครื่องมือสร้างความผ่อนคลายแล้วยังเป็นภูมิคุ้มกันของใจในคนที่เป็นซึมเศร้า
  • นักวิจัยพบว่าคนที่มีอารมณ์ขันสูงจะมีความภูมิใจในตนเอง มีอารมณ์เชิงบวก ควบคุมความเครียด มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ดี
  • ในฐานะครูการมีอารมณ์ขันในห้องเรียนเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยในการสร้างแรงจูงใจต่อนักเรียน รวมถึงมีผลเชิงบวกมากมาย ทั้งต่อนักเรียนและตัวครู

 คุณคิดว่าคุณเป็นคนตลกแค่ไหน แล้วคุณคิดว่าอารมณ์ขันเป็นประโยชน์สำคัญกับชีวิตหรือไม่ Mark Twain นักประพันธ์ชาวอเมริกันผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักประพันธ์อารมณ์ขันอเมริกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ได้กล่าวว่า “อารมณ์ขันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และเป็นสิ่งที่ช่วยให้ความโกรธ ความขุ่นเคือง หายไปรวมถึงทำให้ความแข็งกระด้างลดลง และทำให้ความสดใสเข้ามาแทน”

 

อารมณ์ขันเรื่องตลกที่ไม่ธรรมดา

อารมณ์ขันนอกจากจะเป็นเครื่องมือสร้างความผ่อนคลายแล้วยังเป็นภูมิคุ้มกันของใจในคนที่เป็นซึมเศร้า อารมณ์ขันเป็นภูมิคุ้มกันจิตใจคนที่เสี่ยงต่อภาวะนี้ เพราะเมื่อสัมผัสกับสิ่งเร้าเชิงลบบางอย่างจะเร้าต่อคนที่เป็นซึมเศร้า อารมณ์ขันจะเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เชิงลบกระตุ้นให้เกิดอาการซึมเศร้า

อารมณ์ขันไม่เพียงแต่ป้องกันภาวะซึมเศร้าเท่านั้นยังช่วยให้คุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้คนดีขึ้นอีกด้วย นักวิจัยพบว่าคนที่มีอารมณ์ขันสูงจะมีความภูมิใจในตนเอง มีอารมณ์เชิงบวก ควบคุมความเครียด มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ดี อย่างไรก็ตามอารมณ์ขันอาจไม่ได้ถึงความอารมณ์ดีเพียงอย่างเดียว นักวิจัยได้แบ่งอารมณ์ขันเป็น 4 ประเภท

1.อารมณ์ขันที่สร้างมิตร อารมณ์ขันที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความผูกพันทางสังคม 

2.อารมณ์ขันที่ส่งเสริมตัวเอง คือการมองสิ่งในชีวิตประจำวันด้วยอารมณ์ขัน

3.อารมณ์ขันที่ก้าวร้าว เช่น การเยาะเย้ยผู้อื่น 

4.อารมณ์ขันที่ล้อเลียนตัวเอง โดยการพูดล้อเลียนตัวเองใช้เรื่องของตัวเองการสร้างความสนุกสนาน

ข้อดีของอารมณ์ขันจะเกิดขึ้นในบุคคลที่มีอารมณ์ขันแบบสร้างมิตร และส่งเสริมตนเอง เมื่อปลูกฝังอารมณ์ขันสิ่งสำคัญคือต้องพยายามสร้างอารมณ์ขันอย่างถูกต้องและไม่ล้อเลียนผู้อื่น นอกจากการหัวเราะจะเป็นภูมิคุ้มกันทางใจแล้ว การหัวเราะยังช่วยให้หัวใจ หลอดเลือดดีขึ้น ลดความเครียด และความดันได้อีกด้วย

 

 

Humor

ผู้ชาย 90% และผู้หญิง 81% ได้บอกว่าอารมณ์ขันเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับคู่รัก เพราะอารมณ์ขันครอบคลุมเกือบทุกด้านของชีวิต อารมณ์ขันยังสำคัญสำหรับผู้นำในการลดความตึงเครียดสำหรับทีมงานหรือทำให้สถานการณ์ได้ผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังพบว่าการมีอารมณ์ขันช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยมะเร็งได้ด้วย

การหัวเราะทำหน้าที่เป็นยาแก้ปวดตามธรรมชาติในร่างกาย ในการศึกษาผู้ป่วย 35 รายในโรงพยาบาลฟื้นฟู พบว่า 74% เห็นด้วยกับว่าบางครั้งการหัวเราะก็ได้ผลพอๆ กับยาแก้ปวด

นอกเหนือจากการหัวเราะจะทำให้สุขภาพจิต สุขภาพกายดีขึ้นแล้ว เสียงหัวเราะยังทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย  การศึกษาจากมหาวิทยาลัย Northeastern พบว่าอาสาสมัครที่ชมภาพยนตร์ตลกสามารถแก้ปริศนาการเชื่อมที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ชมภาพยนตร์สยองขวัญหรือการบรรยายฟิสิกส์ควอนตัม เนื่องจากเสียงหัวเราะจะทำให้สมองด้านหน้าทำงาน ซึ่งเป็นพื้นที่ของสมองที่เกี่ยวข้องกับความสนใจและการตัดสินใจ ไม่เพียงเท่านั้นประโยชน์ของการมีอารมณ์ขันนั้นลึกซึ้งมากทำให้มหาวิทยาลัย Stanford เปิดสอนหลักสูตรธุรกิจเกี่ยวกับอารมณ์ขันในที่ทำงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ สร้างองค์กรที่มีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์และยังช่วยปลูกฝังความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เพราะอารมณ์ขันมีพลังในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลกได้

 

อารมณ์ขันในห้องเรียน

ในฐานะครูการมีอารมณ์ขันในห้องเรียนเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยในการสร้างแรงจูงใจต่อนักเรียน รวมถึงมีผลเชิงบวกมากมาย ทั้งต่อนักเรียนและตัวครู เช่น

  • ความกระตือรือร้นและความมั่นใจเพิ่มขึ้น
  • ความสุขเพิ่มขึ้น
  • มองโลกในแง่ดี
  • ความเต็มใจรับความเสี่ยง
  • ลดความเครียด

นักวิจัยได้บอกว่าเด็ก ๆ ที่หัวเราะในห้องเรียนจะสามารถพัฒนาการสื่อสาร และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รวมถึงมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เพราะการหัวเราะกันในห้องเรียนกันเป็นกลุ่มจะสร้างความรู้สึกเป็นทีม  สร้างความผูกพันระหว่างเพื่อนและครู ช่วยเชือมโยงเด็ก ๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงความแตกต่าง ลดความขัดแย้งในชั้นเรียนและเพิ่มความมีส่วนร่วมของนักเรียน

อารมณ์ขันสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการสอนในห้องเรียนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงบวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วงเช้าเป็นช่วงที่เหมาะสมในการทักทายด้วยเรื่องสนุกสนาน เช่นแชร์เรื่องตลก หรือให้นักเรียนช่วยแชร์เรื่องตลกที่พวกเขาได้เจอ หรืออาจจะให้นักเรียนได้ฝึกบันทึกอารมณ์ขันลงในสมุด เพื่อเก็บไว้แชร์ในชั้นเรียน  เรื่องตลกไม่เพียงแต่ทำให้ห้องเรียนผ่อนคลายขึ้นเท่านั้น ยังส่งเสริมการคิดที่ไม่ตามแบบแผน นอกจากนี้การเล่าเรื่องตลกเป็นการเล่นคำที่สร้างให้เกิดทักษะการคิดขั้นสูง เพิ่มเติมคำศัพท์ใหม่ ๆ ได้อีกด้วย ห้องเรียนไหนที่ครูมั่นใจว่าตลกพอตัวก็ถือว่ามาถูกทางแล้วครับ

 

อ้างอิง
https://minds-in-bloom.com/5-ways-use-humor-classroom/
https://bigthink.com/neuropsych/humor-life-skill/
https://www.jons-online.com/issues/2018/august-2018-vol-9-no-8/1923-the-benefits-of-humor-when-confronted-with-cancer

Share

Authors

Authors

RELATED POSTS