ลองฟังเสียงป่า เพื่อสร้างความฉลาดทางอารมณ์

A A
Aug 16, 2023
Aug 16, 2023
A A

 

ลองฟังเสียงป่า เพื่อสร้างความฉลาดทางอารมณ์

 

มีใครเคยฟังเสียงป่าไหม?

เคยรู้สึกไหมว่าเสียงป่า ช่วยให้เราอารมณ์ดีขึ้น มีสมาธิมากขึ้น

 

เสียงป่า คือ อะไร ?

 

เสียงป่า คือ เสียงของธรรมชาติที่มาจากระบบนิเวศโดยที่มนุษย์ไม่เข้าไปแทรกแซง ตัวอย่างเช่น เสียงนกร้อง, เสียงฝน, เสียงของเส้นทางในป่า เสียงการไหลของลำธารเป็นต้น เพราะหลากหลายงานวิจัยระบุว่า เสียงจากธรรมชาติช่วยให้เราเกิดสมาธิ ช่วยให้เราโฟกัสกับสิ่งที่ทำได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย โดยหลักการคล้าย ๆ กับพวกเสียง ASMR หรือ Autonomous Sensory Meridian Response ที่เคยมีการศึกษาว่ามันส่งผลต่อคลื่นสมองช่วยสร้างความฉลาดทางอารมณ์ได้ดีเลยทีเดียว

ปัจจุบัน มีเสียงของธรรมชาติบนแพลตฟอร์ม Sound of the Forest มากกว่า 600 เสียง จากกว่า 60 ประเทศของ 6 ทวีป เช่น เอเชีย แอฟริกา อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป และออสเตรีย ทั้งเสียงนกร้อง เสียงใบไม้ไหว และเสียงสัตว์ป่าหายาก อาทิ เสียงลมหายใจช้าๆ ของสล็อต 3 ขา ที่ค่อยๆ คลานผ่านป่าดิบชื้นในฮอนดูรัส ไปจนถึงเสียงของป่าสนเนื้อแดง Red Wood ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถูกบันทึกไว้ในเดือนพฤษภาคม หลังได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากไฟป่าในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่นิยมเปิดในโรงเรียนแถบลาตินอเมริกาโดยเฉพาะโรงเรียนประจำที่เด็ก ๆ มักจะมีความเครียดสูง

 

 

เสียงป่าถึงช่วยสร้างความฉลาดทางอารมณ์ได้

ชื่อภาพ : เสียงป่าช่วยสร้างความฉลาดทางอารมณ์

 

 

 

ทำไมเสียงป่าถึงช่วยสร้างความฉลาดทางอารมณ์ได้ ?

 

Emily Mendez นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตชาวอเมริกัน ได้ตีพิมพ์งานวิจัย How the Sound of Rain Can Calm an Anxious Mind โดยระบุว่า เสียงป่ามักจะมีจังหวะ ท่วงทำนอง ความถี่ที่ใกล้เคียงกัน และดังต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ซึ่งสมองของเราจะประมวลผลว่า เสียงเหล่านี้เป็นเสียงที่ผ่อนคลาย ไร้อันตราย และทำให้มีสมาธิมากยิ่งขึ้น เราจึงมักจะเห็นวิดีโอและแพลตฟอร์ม ‘เสียงป่า’ หลากหลายรูปแบบที่นิยมเปิดในช่วงต้องการสร้างสมาธิ หรือ ต้องการขจัดความเครียด นั่นเอง

โดยสมองของคนเราตีความเสียงป่าว่าเป็น ‘non-threathening sound’ หรือเสียงที่ไม่เป็นอันตราย เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวของใบไม้ เสียงกระทบของหยดน้ำ สมองของเราจะรู้สึกว่าวางใจได้ มันจึงช่วยให้จิตใจรู้สึกสงบ นอกจากนี้ เสียงธรรมชาติยังเป็น ‘white noise’ ที่ช่วยกลบเสียงรบกวนจากความวุ่นวายภายนอกได้อีกด้วย เมื่อเราเจอเสียงบางประเภทเช่นเสียงตะโกน เสียงสุนัขเห่า หรือเสียงรบกวนอื่น ๆ สมองจะตีความเป็น ‘threathening sound’ ซึ่งเมื่อได้ยินแม้เพียงเบา ๆ ก็สามารถทำให้คนเรารู้สึกไม่สงบ กระวนกระวาย หรือทำให้นอนไม่หลับได้ หากคุณอยากรู้สึกสงบขึ้น หรือแม้แต่นอนหลับง่ายขึ้น ลองเข้า Youtube และเปิดเสียงป่ากลบเสียงเหล่านี้ดู ถึงจะดังหน่อยก็ไม่เป็นไร เนื่องจากสมองเราจะตีความเป็นเสียงที่ดีนั่นเอง

อีกหนึ่งงานวิจัยจากโรงเรียนแพทย์ Brighton and Sussex Medical (BSMS) จากสหราชอาณาจักร พบว่าเสียงธรรมชาติ อย่างเช่น เสียงป่า เสียงฝน ส่งผลต่อระบบร่างกายที่ควบคุมโดยระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการพักของสมอง ในขณะที่เสียงที่เป็นธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมสีเขียวนั้นเชื่อมโยงในการส่งเสริมการผ่อนคลายด้วย

โดยนักวิจัยได้คัดเลือกเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรง 17 คน ทดลองฟังเสียงสั้น ๆ 5 นาที ซึ่งประกอบด้วยเสียงจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและเสียงประดิษฐ์ที่มนุษย์สร้างขึ้น จากนั้นทำการสแกนสมองด้วย MRI เพื่อค้นหาคำตอบว่า อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดในการผ่อนคลายสมอง นักวิจัยสังเกตเห็นว่า เสียงป่า เสียงฝน และเสียงธรรมชาติ กับเสียงประดิษฐ์มีความแตกต่างในวิธีการตอบสนองของสมองต่อความเครียด เสียงที่เป็นธรรมชาติจะมีการเชื่อมต่อของสมองชี้ให้เห็นว่ามีความสนใจจากภายนอกเพิ่มขึ้น เช่น การกระทำ สภาวะ หรือนิสัยที่เกี่ยวกับความรู้สึกจากสิ่งที่อยู่นอกตัวเอง เช่น การมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น กระตือรือร้น ชอบพูด และชอบเข้าสังคมมากขึ้นนั่นเอง

.

สิ่งสำคัญที่การทดลองทั้ง 2 สามารถชี้ชัดได้ดีที่สุด ก็คือ ธรรมชาติอยู่รอบตัวเรา และสำคัญกับเราอีกทั้งยังเป็นตัวช่วยที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นโดยแทบจะไม่ต้องพยายามอะไรมากเลยแค่ฟังอย่างเดียวก็เพียงพอ ลองหาพื้นที่ที่เราอยากใช้เวลาด้วย เปิดการฟัง สังเกตรับรู้เสียงที่อาจได้ยินโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น เสียงลมพัด ใบไม้ไหว นกร้อง กิ่งไม้กระทบกัน เสียงแมลง และเสียงอีกมากมายต่าง ๆ ณ บริเวณนั้น เราจะพบว่าแม้แต่ในวันที่รู้สึกแย่กับการเรียน การสอบ การทำงานต่าง ๆ ก็อาจรู้สึกดีขึ้นได้แค่ลองเปิดใจ “ฟัง”

Share

Authors

Authors

RELATED POSTS