วันที่ผ้าขาวเปื้อนสี ความล่มสลายของหัวใจที่บอบช้ำ

A A
Jan 8, 2022
Jan 8, 2022
A A

วันที่ผ้าขาวเปื้อนสี ความล่มสลายของหัวใจที่บอบช้ำ

 

เมื่อเราก้าวเท้าเข้าสู่ศักราช 2565 คดีอุกฉกรรจ์มากมายเต็มหน้าฟีดโซเชียลมีเดีย เรื่องน่าแปลกใจก็คือ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางยุคสมัยศิวิไลแห่งเทคโนโลยี สังคมกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและพลังของโลกออนไลน์ ดั่งวันที่ผ้าขาวเปื้อนสี ความล่มสลายของหัวใจที่บอบช้ำ เหตุการณ์ความรุนแรงถูกพูดถึงผ่านโซเชียลมีเดียอยู่ตลอดพร้อมกับคำประณามด่าทอดั่ง “ทัวร์ลง” ของประชาชนชาวเน็ต แต่ไม่ว่าสังคมจะพยายามสักแค่ไหนข่าวอาชญากรรมก็ยังคงถูกนำเสนอมากพอ ๆ กับข่าวเศรษฐกิจและการเมือง คดีเขย่าขวัญ การลักพาตัว อุ้มฆ่า ข่มขืน กระทำอนาจาร ทำร้ายร่างกาย ผุดงอกเป็นดอกเห็ด สะท้อนให้เห็นข้อสังเกตบางอย่างของ “มนุษย์ภัยสังคม” ที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย สังคมจะจัดการยังไงกับเรื่องเหล่านี้ เราควรปลูกฝังเรื่องของ ผิด ชอบ ชั่ว ดี หรือ เราควรโฟกัสไปที่ความเข้มงวดของกฎหมายกัน

คำอธิษฐาน… ของน้ำเสียงสั่นเครือ

ย้อนเวลาไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน สื่อกระแสหลักอย่างโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ต่างประโคมข่าวตามหาหนูน้อย Sarah Payne ที่พวกเขาคาดการณ์กันว่าเธอหายตัวไปในไร่ข้าวโพด จากการตีวงค้นหาในพื้นที่ระยะใกล้ ๆ ถูกยกระดับเป็นการระดมพลค้นหาทั้งประเทศ จนกระทั่งเรื่องนี้ถูกนำไปสู่การรื้อกฎหมายคุ้มครองเด็กครั้งยิ่งใหญ่ในอังกฤษ

1 กรกฎาคม 2543 เขตเมืองเวสต์ซัสเซกซ์ ช่วงเวลาโพล้เพล้เหมือนรังสรรค์หมอกแห่งความมืดมนเข้าปกคลุม บ้านของเทอร์รี่และเลสต์ลีย์ สองปู่ย่าที่กำลังก้มลงสวดอ้อนวอนขอปาฏิหาริย์ เมื่อหลานสาวตัวน้อยของพวกเขาหายไปในไร่ข้าวโพด

ความกดดันของสื่อมวลชนภายนอกที่กำลังกังขาต่ออาชีพตำรวจในยุคนั้น ผลักให้การสอบสวนเรื่องราวนี้ทะยานเป็นวาระแห่งชาติภายในข้ามคืน การเดินเคาะบ้านหาความจริงทีละหลังจากระยะแค่ไม่กี่เมตรขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ เป็นระยะหลักสิบไมล์ หลักฐาน ตัวแปรความเป็นไปได้ต่าง ๆ ดูเหมือนจะชัดเจนขึ้นเมื่อตำรวจเดินทางมาถึงบ้านหลังนี้

แฟลตริมทะเลใน Little Hampton บ้านหลังน้อยของรอยด์ ไวท์นิ่ง ชายผู้เป็นหนึ่งในหลายสิบคนที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ ด้วยประวัติที่ไม่ได้ขาวสะอาดนักในฐานะรายชื่อคนกลุ่มแรก ๆ บนทะเบียนผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะถูกเพ่งเล็งเมื่อความผิดติดตัวนี้คือสิ่งที่สามารถยึดโยงกับสถานการณ์เด็กหายที่กำลังเกิดขึ้น

คำอธิษฐานที่ส่งไปถึงพระเจ้า… ไม่ทันเวลา

17 กรกฎาคม 2543 บริเวณ Kingston Gorse ระยะทางกว่า 24 กิโลเมตรจากรอยเท้าสุดท้าย
ศพนิรนามถูกพบและได้รับการยืนยันตัวตนโดยหลักฐานแวดล้อมภายในไม่กี่ชั่วโมงว่าร่างไร้วิญญาณนี้คือหนูน้อยซาราห์นั่นเอง

อะไรก็เกิดขึ้นได้ ต่อให้ต้องอัญเชิญไฟบรรลัยกัลป์หรือสร้างพายุเหมันต์แห่งการทำลายล้าง ด้วยสัญชาตญาณของพ่อแม่ เราสามารถสร้างและทำลายทุกสิ่งอย่างย่อยยับในพริบตาเมื่อมี “ชีวิตของลูก” เป็นเดิมพัน

2 ธันวาคม 2544 หลังจากการพิจารณาคดีที่กินระยะเวลากว่าสี่เดือน การรวบพยานหลักฐานจากการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องถึงเวลาสิ้นสุด ภารกิจคืนความยุติธรรมให้ลูกเดินทางมาถึงสถานีสุดท้าย หัวอกคนเป็นพ่อแม่หอบร่างที่หมดแรงกับใบหน้าอันโรยรามานั่งหน้าบัลลังก์ศาลอย่างใจจดจ่อ ก่อนที่ผู้พิพากษาเคอร์ติสและคณะลูกขุนจะกล่าวคำประกาศว่า นาย รอยด์ ไวท์ทิ่ง มีความผิดฐานลักพาตัวและสังหารซาราห์ เพย์น ถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต

หลังการพิจารณาคดีสิ้นสุดลง นักโทษชาย รอยด์ ไวท์ทิ่ง ถูกตราหน้าอย่างเป็นทางการอีกครั้งในฐานะผู้กระทำความผิดทางเพศต่อเด็ก เรื่องนี้สร้างแรงกระเพื่อมได้ไม่น้อยต่อตัวบทกฎหมายที่อาจไม่แข็งแรงพอจนเป็นที่น่าท้าทายให้คนเหล่านี้กระทำความผิดแบบเดิมซ้ำ ๆ

เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครก็ตามต่อให้เด็กคนนั้นเป็นลูกของป้าข้างบ้านที่น่ารำคาญแค่ไหน แต่การเพิกเฉยต่อพฤติกรรมอาชญากรอาจไม่ต่างอะไรกับการที่เราลงมือก่ออาชญากรรมด้วยตนเอง หลังจากนั้นไม่นานแคมเปญป้องกันการคุกคามทางเพศจึงเกิดขึ้นเพื่ออุทิศให้หนูน้อยซาราห์ผู้ล่วงลับ เป็นกฎหมาย Child sexual offenders disclosure scheme ที่ว่าด้วยเรื่องของความเข้มงวดด้านบทลงโทษและการขึ้นทะเบียนผู้มีประวัติการคุกคามทางเพศทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยมีสาระสำคัญคือลิสต์รายชื่อเหล่านี้เปิดเผยให้พลเมืองทั่วไปสามารถเข้าไปเช็คได้แม้คุณจะไม่ใช่ผู้ปกครองของเด็กแต่อย่างใด

ไม่ใช่เพียงแค่การข่มขืน แต่รวมไปถึงการลวนลามทางวาจา โชว์ของลับ นัดแชทออนไลน์ หรือแค่เดินผ่านแล้วตีก้นเด็ก ก็จะรวมอยู่ในบัญชีหนังหมาเล่มนี้ทั้งสิ้น รายชื่อถูกบันทึกในนั้นตามระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไปตามลำดับโทษ ตั้งแต่ 2 ปีไปจนถึงตลอดชีวิต ผู้คนตามรายชื่อเหล่านี้จึงมีชีวิตที่ยากขึ้น หากจะมีความสัมพันธ์ขึ้นมาจริงๆ หรือจะย้ายไปอยู่บ้านที่มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องมีตำรวจและหน่วยงานสังคมสงเคราะห์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทันที และไม่นับการประกอบสัมมาอาชีพ ข้อมูลภูมิหลังทางกฎหมายคือสิ่งสำคัญอันดับแรกก่อนการพิจารณาเรซูเม่เสียอีก โอกาสสมัครงานจึงแทบจะเป็น 0 เลยทีเดียว โดยภายหลังมีการตั้งชื่อเล่นให้กฎหมายนี้เพื่ออุทิศให้หนูน้อยซาร่าห์ผู้ล่วงลับว่า “Sarah’s Law”

ความเห็นอกเห็นใจเป็นสิ่งที่ปลูกฝังได้ตั้งแต่ยังเล็ก

ที่มาภาพประกอบบทความ : https://news.sky.com/story/sarah-payne-roy-whitings-attacker-sentenced-10463254

เสียงจากหอคอยบิ๊กเบน… ส่งตรงถึงป้อมยามย่านบางแค

ช่วงวันสองวันที่ผ่านมา ภาพข่าวที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการจับกุมหัวหน้ายามผู้ก่อเหตุลงมือข่มขืนลูกบ้านในคอนโดย่านบางแค เรื่องการละเมิดสิทธิในร่างกายมันไม่ใช่เรื่องที่สังคมควรทำตัวให้ชิน แม้เรื่องนี้จะดูเหมือนคดีข่มขืนอื่นที่เราเห็นกันอยู่บ่อย ๆ และพอจะเดาตอนจบของภัยสังคมคนนี้ได้ ซึ่งมันไม่ได้จบลงแค่นั้น มีการจับต้นชนปลายจนไปพบดอกจันตัวโต ๆ ในประวัติของนายมนตรี ที่สรุปได้ว่าการก่อเหตุครั้งนี้คือการฉายหนังซ้ำของนายมนตรีคนเดียวกันกับผู้ต้องหาคดีกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีที่จังหวัดสระแก้วเมื่อปี พ.ศ. 2556 สังคมจึงเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับมาตรฐานการรับสมัครพนักงาน โดยเฉพาะหน้าที่สำคัญและมีความหมายในตัวมันเองอย่างอาชีพ รปภ. คำย่อของพนักงานรักษาความปลอดภัย ชาวเน็ตผู้สงสัยจึงจัดขบวนรถทัวร์ไปจอดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อต้องการคำตอบว่า ออกใบอนุญาต รปภ. ได้อย่างไร เมื่อผู้ที่เคยพัวพันกับคดีทางเพศเป็นรายชื่อต้องห้ามอย่างเด็ดขาด มาตรฐานการเช็คประวัติอยู่ที่ไหน? คำตอบจากโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอธิบายถึงการตกหล่นของระบบในการตรวจสอบฐานข้อมูลของ รปภ. มากกว่าสามแสนคนทั่วประเทศ ความผิดพลาดลักษณะนี้จึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้บ้าง เหตุการณ์ครั้งนี้จึงถูกยกเปรียบเทียบกับคดีข่มขืนอื่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยมาตรฐานของหน่วยงานตำรวจที่ควรจะมีเสถียรภาพของข้อมูลที่มั่นคงที่สุด เพราะมันเป็นเรื่องของหน้าที่สร้างความอุ่นใจ เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชน โดยเฉพาะเด็กและสตรี ไม่ว่าจะด้วยเหตุและปัจจัยอะไรก็แล้วแต่ กฎหมาย Sarah’s Law เดินทางผ่านหอคอยบิ๊กเบนข้ามเกาะอังกฤษมาเพื่อเป็นข้อเปรียบเทียบที่ชัดเจนว่าการบัญญัติโทษข่มขืนแบบไทย ๆ ยังคงสร้างฉากหนังซ้ำได้แบบไม่รู้จบ

ความพยายามครั้งที่ร้อยหนึ่ง

มีการออกมารณรงค์มากมายเป็นร้อย ๆ ครั้ง จดหมายถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจนับได้เป็นพันฉบับที่ปลายทางยังคงรอคอยการตอบกลับจนหมดลมหายใจไปแล้วก็มี แต่เมื่อการพยายามครั้งที่ร้อยหนึ่งมาถึง ปรากฏการณ์รวมตัวชุมนุมเพื่อทบทวนความล้าหลังของกฎหมายการล่วงละเมิดทางเพศผสานเข้ากับพลังขับเคลื่อนโลกยุคใหม่ที่เรียกว่าโซเชียลมีเดีย ถูกส่งต่อแบบปากต่อปาก พลังไลก์และแชร์สนับสนุนในโลกออนไลน์ ส่งผลให้ #ข่มขืนเท่ากับประหาร ทะยานขึ้นเป็นแฮชแท็กอันดับหนึ่งได้ทันที นำไปสู่การประกาศราชกิจจานุเบกษาเพิ่มโทษกฎหมายข้อหาข่มขืน สาระสำคัญคือบทลงโทษที่ครอบคลุมมากขึ้นไม่จำกัดเฉพาะเพียงแค่ชายและหญิงเท่านั้น เพิ่มอัตราโทษให้ทันสมัยตามกลไกโลก ไม่ว่าจะเป็นการต้องโทษจำคุกเมื่อมีการถ่ายคลิปอนาจารหรือเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับการยินยอม รวมไปถึงเพิ่มโทษการกระทำอนาจารเด็กหญิงหรือชายอายุต่ำกว่า 15 ปี ด้วยเช่นกัน

รอยเปื้อนทางใจของผ้าขาว

ความหวาดกลัวที่จะถูกทำร้ายสร้างรอยเปื้อนทางใจให้ผ้าขาวเหล่านี้ อาการเหม่อลอย ซึมเศร้า เก็บกด ขาดความไว้วางใจ ขาดแรงจูงใจในการใช้ชีวิต จนไปถึงการสิ้นหวัง ทำร้ายตนเอง พัฒนาไปสู่การฆ่าตัวตายในที่สุด การเพิ่มโทษประหารอาจไม่ใช่ทางออกของปัญหานี้ หากมองในมุมหนึ่งเหมือนเปิดโอกาสให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นได้เช่นกันจากการฆ่าปิดปากเพื่อหนีความผิด เพราะผู้กระทำความผิดก็ย่อมเกรงกลัวต่อกฎหมาย เพียงแต่พวกเขาไม่ได้เกรงกลัวที่จะกระทำความผิดเท่านั้นเอง

หรือจริง ๆ แล้วสิ่งที่เราควรจะมีมากกว่าโทษประหารคือกฎหมายที่ช่วยเหลือหรือเอื้อประโยชน์ให้เหยื่อรู้สึกปลอดภัยต่อการเข้ากระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่การเดินทางเพียงลำพังของพ่อแม่ผู้ใจสลาย โดยไร้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐ หากลองมองจากอีกมุมหนึ่งอย่างเปิดใจ คุณอาจจะพบว่าการเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกของพ่อแม่เหล่านี้อาจเป็นเหตุผลเดียวที่เหลืออยู่ในการตื่นลืมตาขึ้นมาสู้ต่อ หลังจากความหวังเดียวของชีวิตถูกพรากไปพร้อมลมหายใจของลูกน้อย

บทสรุปสุดท้ายแล้วมันคงไม่มีเรื่องของลูกเขาเราไม่เกี่ยว
เมื่อเรากำลังพูดถึงความปลอดภัยของชีวิตเด็กสักคน

ใครจะไปรู้ว่า

วันข้างหน้าเด็กคนนี้อาจจะเป็น…เพื่อนบ้านผู้แสนดีพร้อมไก่อบสุดอร่อยแบ่งปันถึงรั้วบ้านในทุกเทศกาล
วันข้างหน้าเด็กคนนี้อาจจะเป็น…ปลายสายโทรศัพท์ หมายเลข 191 หลังจากที่คุณพึ่งโดนขโมยกระเป๋าตังค์ไปไม่กี่นาทีก่อน
วันข้างหน้าเด็กคนนี้อาจจะเป็น…คนแรกที่เปิดประตูฝ่ากองเพลิงเข้ามาช่วยคุณ ในวันที่เตาแก๊สในครัวมันช่างไม่รักดี
วันข้างหน้าเด็กคนนี้อาจจะเป็น…นักฟิสิกส์แห่งศตวรรษ ผู้ที่พาคุณออกไปยืนชมวงแหวนดาวเสาร์ให้เต็มตาจากมุมมองบนกระสวยอวกาศที่เขาเป็นผู้คิดค้น
วันข้างหน้าเด็กคนนี้อาจจะเป็น…ผู้นำประเทศ ผู้ชุบชีวิตเศรษฐกิจจนคุณสามารถใช้เงินแปดหลักเพื่อซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมซักใบจากเศษตังค์หลังตู้เย็น
วันข้างหน้าเด็กคนนี้อาจเป็น…พ่อแม่ในฝันของใครสักคน ได้มีโอกาสส่งต่อความรักในแบบที่ตัวเขาเองถวิลหามาตลอด
สุดท้ายแล้วเด็กคนนี้อาจเป็น…อะไรได้อีกมากมายแค่ไหน
คงเป็นสิ่งน่าเสียดายที่เรื่องราวความน่าจะเป็นเหล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้จากร้างที่ไร้วิญญาณ
ของเหยื่ออาชญากรรมที่ไม่มีโอกาสได้เติบโต

ประตูบานหนึ่งที่ดับสิ้นไป เป็นบทเรียนที่ปูพรมไปสู่การแก้ไขสิ่งที่ควรแก้ไข
เพื่อประตูบานต่อไปจะนำพาพวกเราไปสู่สังคมปลอดภัยที่ใฝ่ฝัน

ขอให้โลกใบใหม่ใจดีกับหนู

อ้างอิง
http://bitly.ws/ntfs
http://bitly.ws/ntfC
http://bitly.ws/ntfI
http://bitly.ws/ntfR

Share

Authors

Authors

RELATED POSTS