Stella McCartney แบรนด์แฟชั่นที่เป็นกระบอกเสียงที่ทรงอิทธิพลที่สุด
- การซื้อเสื้อผ้าเป็นเรื่องปกติในโลกใบนี้ แต่ในระยะ 10-20 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนไป จนเกิดธุรกิจที่เรียกว่า Fast Fashion
- Stella McCartney คือแบรนด์ในอุตสาหกรรมแฟชั่นแบรนด์เดียวที่เข้าร่วม COP Stella McCartney สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนโยบายและกฎระเบียบเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับธุรกิจที่ยั่งยืนรวมถึงลดการปล่อยคาร์บอนของอุตสาหกรรมแฟชั่น
- Stella McCartney ได้ร่วมมือกับProtein Evolution ในการสร้างเสื้อคลุมที่ประดิษฐ์จากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลได้ไม่จำกัดเป็นชิ้นแรกของโลก
Stella McCartney แบรนด์แฟชั่นที่เป็นกระบอกเสียงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในด้านความยั่งยืน
การซื้อเสื้อผ้าเป็นเรื่องปกติในโลกใบนี้ แต่ในระยะ 10-20 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนไป จนเกิดธุรกิจที่เรียกว่า Fast Fashion เป็นการผลิตเสื้อผ้าที่มีราคาต่ำลงจนทำให้การบริโภคเสื้อผ้ามีเยอะขึ้น เสื้อผ้ากลายเป็นแฟชั่นที่เปลี่ยนไวและเป็นที่ต้องการตลอดเวลา แต่อุตสาหกรรมนี้มาพร้อมกับราคาที่สูงสำหรับโลกของเรา
มีผลสำรวจว่าการผลิตกางเกงยีนจะมีการปล่อย CO2e ประมาณ 16.2 กิโลกรัมซึ่งเทียบเท่ากับการขับรถเป็นระยะทางกว่า 58 ไมล์ ปัจจุบันผู้บริโภคโดยเฉลี่ยซื้อเสื้อผ้าเพิ่มขึ้น 60%จากเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ขยะสิ่งทอประมาณ 300,000 ตันถูกทิ้งจากครัวเรือนทุกปี และถูกส่งไปยังสถานที่ฝังกลบหรือเตาเผา และวัสดุที่ใช้ในการผลิตเสื้อผ้าน้อยกว่า 1% ถูกรีไซเคิล อุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้าปล่อยก๊าซคาร์บอน 2-8 เปอร์เซ็นต์ของทั่วโลก ส่วนหนึ่งมาจากการผลิตฝ้าย ยาฆ่าแมลง เครื่องจักร การขนส่ง
จากข้อมูลส่วนหนึ่งจะเห็นได้ว่าการแก้ไขเรื่องเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มก็มีผลต่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ไม่ว่ากิจกรรมอะไรของมนุษย์ย่อมส่งผลต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั้งสิ้น
นอกจากนี้ Fast Fashion ส่งผลต่อการลดเวลา ต้นทุน รวมถึงการใช้งานของเสื้อผ้านั้น ๆ อย่างที่คาดไม่ถึง นักออกแบบในฐานะผู้มีอำนาจตัดสินใจคนแรกในการผลิตเสื้อผ้า นักออกแบบควรเรียนรู้วงจรการผลิตเสื้อผ้าโดยรู้ว่าเสื้อผ้ามีอิทธิพลต่อโลกและความยั่งยืนอย่างไร โดยสถาบันการศึกษาควรให้ความสำคัญถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ให้ความรู้เชิงลึกสำหรับการเลือกใช้วัสดุระหว่างการคิดการออกแบบและห่วงโซ่อุปทานการผลิตเพื่อให้เกิดจิตสำนึกที่สามารถเปลี่ยนแปลงการออกแบบไปสู่ผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมแฟชั่น เช่น
แนวคิดการออกแบบที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ จิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และการรีไซเคิล
จากข้อมูลของ McKeown องค์ประกอบหลักสี่ประการของการศึกษาด้านการออกแบบแฟชั่นที่ยั่งยืน ได้แก่ จิตสำนึก ความสามารถ การบูรณาการ และการนำไปปฏิบัติ องค์ประกอบเหล่านี้ทำงานร่วมกันและส่งผลต่อความยั่งยืน โดยนักศึกษาแฟชั่นสามารถพัฒนาองค์ประกอบเหล่านี้เป็นความเชี่ยวชาญ ทักษะ ที่จำเป็นสำหรับการออกแบบที่ยั่งยืน นำแนวคิดการออกแบบไปใช้ การผลิตเสื้อผ้า และมีอิทธิพลต่อทัศนคติของลูกค้า
Stella McCartney แบรนด์แฟชั่นรายใหญ่ที่เป็นกระบอกเสียงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในด้านความยั่งยืน
โดยเป็นผู้บุกเบิกแฟชั่นเชิงนิเวศน์นับตั้งแต่เปิดตัวแบรนด์ เป็นแบรนด์แฟชั่นหรูแบรนด์แรกที่ไม่ใช้หนังสัตว์ ขนสัตว์ นอกจากนี้ Stella McCartney คือแบรนด์ในอุตสาหกรรมแฟชั่นแบรนด์เดียวที่เข้าร่วม COP Stella McCartney สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนโยบายและกฎระเบียบเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับธุรกิจที่ยั่งยืนรวมถึงลดการปล่อยคาร์บอนของอุตสาหกรรมแฟชั่น นอกจากนี้ยังได้ประกาศไว้ว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2040 Stella McCartney ยังให้ความสำคัญกับการรีไซเคิล ในปี 2022 Stella McCartney ได้ดำเนินการและเปิดตัวผลิตภัณฑ์หมุนเวียนนั่นคือเสื้อคลุมที่ทำจากวัสดุโมโนที่มีEconyl คือไนลอนที่สร้างใหม่ 100% จากขยะก่อนและหลังการบริโภค เช่น อวนจับปลา และ พลาสติกในอุตสาหกรรม Stella McCartney ได้ร่วมมือกับProtein Evolution ในการสร้างเสื้อคลุมที่ประดิษฐ์จากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลได้ไม่จำกัดเป็นชิ้นแรกของโลก
เสื้อผ้าต่อจากนี้ควรได้รับการออกแบบอย่างดี ยั่งยืน และทันสมัย เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม การศึกษาด้านแฟชั่นจึงควรมีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนมีกรอบความคิดที่ยั่งยืน และรับผิดชอบต่อสังคม
อ้างอิง
https://publications.parliament.uk/pa/cm201719/cmselect/cmenvaud/1952/report-summary.html
https://apps.bostonglobe.com/opinion/graphics/2023/11/fast-fashion/education/
https://www.oxfam.org.uk/education/classroom-resources/sustainable-fashion-a-guide-for-teachers/