คว้าปริญญาไปทำไม เมื่อโลกยุคใหม่ไม่สนใจวุฒิการศึกษา

เกิดอะไรขึ้นกับบริษัทชั้นนำของโลกที่รับสมัครงานโดยไม่สนใจวุฒิการศึกษา ในขณะที่บางบริษัทยังคงยึดถือเป็นมาตรฐานการรับเข้าทำงานและใช้วุฒิการศึกษาเป็นหลักพื้นฐานในการวัดคุณสมบัติของตำแหน่งนั้น ๆ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าจ้างเงินเดือน…

ปริญญาถูกตีตราความสำเร็จจริงหรือ

ว่ากันว่าปริญญาคือใบเบิกทางสู่อนาคตที่มั่นคง ยิ่งระดับการศึกษาที่สูงยิ่งดูมีอนาคต วุฒิการศึกษาจึงถูกถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งในความสำเร็จของชีวิต ความเชื่อนี้ถูกจำกัดในความหมายที่ว่าการจบปริญญาตรีคือ ความสำเร็จขั้นต้น จบปริญญาโทคือความก้าวหน้าของชีวิต จบปริญญาเอกคือความสำเร็จขั้นสูงสุดของหลักสูตรปริญญา ในอีกมุมมองหนึ่งถ้าคนเราเรียนไม่จบตามหลักสูตรที่กล่าวมาจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ มีหลายบุคคลที่ไม่ได้จบมหาวิทยาลัยแต่สามารถนำพาตัวเองไปถึงจุดความสำเร็จของชีวิตได้ และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นคนเก่งคนอัจฉริยะ แล้วการศึกษาสถาบันต่าง ๆ ที่มีมาตรฐานทำไมถึงไม่สำคัญกับบุคคลเหล่านั้นล่ะ อาจเป็นเพราะมีสภาวะสังคมที่แตกต่างกันจึงทำให้บุคคลเหล่านั้นไม่ได้รับการศึกษาตามหลักสูตร หรืออาจเป็นเรื่องของฐานะทางการเงิน ปัญหาครอบครัวที่ไม่เอื้ออำนวยให้ได้รับการศึกษา หรือมีความคิดที่เห็นต่างออกไปที่ไม่เห็นถึงความจำเป็นของการถูกตีกรอบการเรียนรู้

ประเทศที่พัฒนาแล้วยังให้ความสำคัญกับวุฒิการศึกษาหรือไม่

จากผลสำรวจประชากรของสหรัฐอเมริกาพบว่า 88% ของชาวอเมริกันเรียนจบในระดับมัธยมปลาย ในจำนวนร้อยละ 33 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป และในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก มีจำนวนอยู่ที่ร้อยละ 12 เท่านั้น ซึ่งฐานของการเฉลี่ยคำนวณเงินเดือนก็เป็นไปตามระดับวุฒิการศึกษา

อีกมุมมองของประเทศมหาอำนาจแห่งนี้ บริษัทชั้นนำหลายแห่งไม่ได้มองเกณฑ์การให้เงินเดือนตามระดับวุฒิการศึกษา หากแต่มองถึงการค้นหาบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ที่สามารถพัฒนาองค์กรของเขาได้จริง ทดสอบจากการรอบรู้และปฏิบัติได้อย่างเชี่ยวชาญ

สกิลทักษะความสามารถของคนยุคใหม่

การบริหารที่ก้าวหน้าในบริษัทชั้นนำของโลกสอดคล้องกับความสามารถของคนในโลกยุคใหม่ที่พบได้หลากหลายมากขึ้น เพราะคนยุคใหม่เรียนรู้ได้หลายช่องทางมากกว่าคนยุคเก่าและการศึกษาไม่ได้ถูกตีกรอบอย่างที่ผ่านมา หลาย ๆ ครอบครัวเลือกที่จะให้เด็ก ๆ รุ่นใหม่เรียนรู้นอกโรงเรียน เรียนรู้จากประสบการณ์ในชีวิตจริง ให้รู้จักการแก้ปัญหาคิดวิเคราะห์ด้วยตนเองมากกว่าที่จะมาบอกให้เดินตามหมากที่วางไว้ ซึ่งในสหรัฐอเมริกาจึงเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ให้โอกาสคนได้แสดงศักยภาพโดยไม่มองวุฒิการศึกษาเป็นหลัก

ตัวอย่างบริษัทชั้นนำที่รับสมัครงานโดยไม่สนใจวุฒิการศึกษา

• Google : บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ใคร ๆ ก็อยากร่วมงาน ศูนย์รวมความรอบรู้ทุกอย่างของโลกใบนี้ ตำแหน่งที่เปิดรับในปัจจุบันไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษา ได้แก่ Product Manager, Recruiter, Software Engineer, Product Marketing Manager, Research Scientist, Developer Relations Intern, Mechanical, UX Engineer, SAP Cloud Consultant
• Apple : บริษัทอันดับต้น ๆ ของวงการไอที มีเทคโนโลยีล้ำยุคสมัย ชัดเจนในการเปิดรับสมัครตำแหน่งงานโดยไม่สนใบปริญญา ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร ได้แก่ Design Verification Engineer, Engineering Project Manager, iPhone Buyer, Apple Technical Specialist, Business Traveler Specialist, Part Time Reseller Specialist

ไม่ได้มีแค่สองบริษัทนี้เท่านั้น ยังมีบริษัทชั้นนำอีกหลายแห่งที่มีความคิดเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Starbucks, Bank of America, IBM ยกตัวอย่างสั้น ๆ ให้เห็นว่าบริษัทเหล่านี้ไม่ได้สนใจวุฒิการศึกษาใด ๆ เลย

มุมมองของผู้บริหารบริษัทระดับโลกคิดอย่างไร

Laszlo Bock อดีตรองประธานอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการบุคคลของ Google กล่าวไว้ว่า “เมื่อคุณมองดูคนที่ไม่ไปโรงเรียนและใช้ชีวิตในโลกนี้ คนเหล่านั้นเป็นมนุษย์ที่พิเศษมาก และเราควรทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อค้นหาคนเหล่านั้น”

จากข้อความข้างต้นสะท้อนให้เห็นถึงความคิดที่แปลกใหม่ จะเป็นอย่างไรถ้าทุก ๆ บริษัทคิดแบบเดียวกัน เราอาจจะเจอคนที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ บุคคลสุดยอดในด้านต่าง ๆ รวมตัวกันในที่ทำงาน จะเกิดเป็นการแข่งขันกันในสังคมหรือไม่

ปริญญาควรไปต่อหรือจบที่ประสบการณ์นอกกรอบ

เมื่อคนส่วนใหญ่มองเห็นตรงกันว่าปริญญาการศึกษายังคงสำคัญ เพราะการศึกษาถูกร่างหลักสูตรให้ตรงตามตัวชี้วัดของผู้เรียน เป็นพื้นฐานที่แสดงผลการวิเคราะห์การเรียนรู้ของบุคคลนั้น ๆ การันตีด้วยแบบประเมินจากสถาบันการศึกษา และผู้ที่ไม่จบตามหลักสูตรการศึกษาจะอยู่รอดได้หรือไม่ถ้าไม่มีแบบประเมินจากสถาบันการศึกษา อย่าลืมว่าบุคคลเหล่านี้อาจผ่านการใช้ชีวิตการเรียนรู้ที่หนักหน่วงมาพอสมควร เพราะผ่านการเรียนรู้แบบนอกกรอบไม่ได้มีการวางหมากของการเรียนรู้ในกรอบการศึกษา ซึ่งอาจเป็นทั้งผลดีและผลเสียในคราวเดียวกัน อยู่ที่การเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาได้มากน้อยเพียงใด สกิลทักษะความสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผู้ที่มีปริญญาและไม่มีปริญญา อยู่ที่บุคคลนั้น ๆ จะเรียนรู้ฝึกฝนและพัฒนาตนเองให้เกิดทักษะกับตนเองได้อย่างไร

อนาคตอาจเป็นจริงได้ ถ้าใบปริญญาจะไม่ใช่พื้นฐานของการรับสมัครงานอีกต่อไป เราควรเตรียมความพร้อมหาสกิลทักษะความสามารถของตนเองและฝึกฝนให้เกิดความเชี่ยวชาญ เริ่มจากการมองหาความชอบความถนัด ความใฝ่รู้ ไขว่คว้าหาประสบการณ์ใหม่ ๆ สะสมความรู้ใหม่เพื่อพัฒนาตนเอง ซึ่งอาจมีมูลค่าที่มากกว่าใบปริญญาทั้งหมดก็เป็นได้

อ้างอิง
https://www.billionway.co/why-biggest-company-accept-non-degree/smartasset.com/retirement/the-average-salary-by-education-level
https://www.glassdoor.com/blog/no-degree-required/quire-employees-to-have-a-college-degree.html
https://www.admissionpremium.com/entrepreneur/news/3980