พ่อแม่ยุคนี้ยังอยากให้ลูกเป็นครูอยู่ไหม

               โลกเรามีอาชีพใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา อาชีพ “ครู” ถือได้ว่าเป็นอาชีพที่มีมายาวนานเมื่อเทียบกับอาชีพใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาของเทคโนโลยี แต่ถ้าถามว่า ยุคนี้พ่อแม่ยังอยากให้ลูกเป็นครูอยู่หรือเปล่า หรือถ้าถามตัวเด็กเองว่า อยากเป็นครูไหม คำตอบที่ได้จากหลาย ๆ ประเทศอาจไม่เหมือนกันเลย ซึ่งคำตอบนี้เอง คือ ตัวสะท้อนว่า คนที่นั่นมีมุมมองความคิดต่ออาชีพครูอย่างไร

ชาวอเมริกันมั่นใจในคุณภาพโรงเรียนและครู 

PDK International ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 1,008 คน ทางออนไลน์เกี่ยวกับโรงเรียนของรัฐพบว่า ชาวอเมริกันมีความมั่นใจในคุณภาพโรงเรียนของรัฐในท้องถิ่น โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 54% ให้คะแนน A หรือ B อีก 45% ให้ C, D หรือล้มเหลว ซึ่งคะแนน A หรือ B ในครั้งนี้เรียกได้ว่า เป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดในประวัติศาสตร์ 48 ปีของการสำรวจความคิดเห็น และยังเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2019 อีกด้วย

พ่อแม่อเมริกันไม่ค่อยอยากให้ลูกเป็นครู

ไม่เพียงแต่ชาวอเมริกันจะไว้วางใจในโรงเรียนรัฐเท่านั้น แต่ 63% ยังเชื่อใจครูในชุมชนอีกด้วย

แม้ผลการสำรวจในหลาย ๆ ด้านจะมีทิศทางที่ดี แต่เมื่อถามว่า อยากให้ลูกหลานเป็นครูไหม ชาวอเมริกันเพียง 37% เท่านั้นที่ตอบว่าอยาก

เรียกได้ว่า ลดลงอีก 9% จากปี 2018 และยังเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้ง ๆ ที่โดยรวมแล้ว พวกเขาค่อนข้างพอใจกับโรงเรียน แต่ทำไมศรัทธาของผู้คนต่ออาชีพครูที่นี่ถึงลดน้อยลงเรื่อย ๆ 

ผู้ตอบแบบสอบถามให้เหตุผลไว้หลายอย่าง ดังนี้

30% บอกว่า ครูได้ค่าจ้าง และสวัสดิการที่ไม่ดี 

26% บอกว่า เป็นเรื่องของความยากลำบาก ความต้องการของอาชีพ และความเครียด 

23% บอกว่า เป็นอาชีพที่ไม่ค่อยได้รับความเคารพจากผู้คนเท่าไร 

21% บอกว่า เป็นเพราะสาเหตุอื่น 

เท่ากับว่า พ่อแม่ก็รู้ว่า คนเป็นครูก็ทำงานหนักกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่อยากเห็นลูกของตัวเองต้องเจอกับความท้าทายแบบเดียวกันในการทำงาน

พ่อแม่ไทยอยากให้ลูกรับราชการมากกว่าเป็นครู

เมื่อชาวอเมริกันส่วนมากไม่อยากให้ลูกเป็นครู  แล้วพ่อแม่ไทยล่ะจะมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร นิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “เด็กและเยาวชนไทยในยุคดิจิทัล” ที่ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7-9 มกราคม 2562 จากประชาชนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป จำนวน 1,270 คน พบว่า 5 อาชีพที่ผู้ปกครองอยากให้บุตรหลานเป็นในยุคดิจิทัลมากที่สุด คือ

1. รับราชการ (ไม่ระบุสาขา) 30.08%  
2. แพทย์ พยาบาล 15.82%
3. อาชีพส่วนตัว (ค้าขาย เสริมสวย ฯลฯ) 13.36%
4. ครู อาจารย์ 7.3% 
5. นักธุรกิจ 7.18%

จะเห็นได้ว่า ค่านิยมของพ่อแม่ส่วนใหญ่ยังคงอยากให้ลูกหลานรับราชการอยู่ เพราะมีความมั่นคง และมีสวัสดิการที่ดี แต่พ่อแม่ที่อยากให้ลูกเป็นครูจริง ๆ จะมีแค่ 7.3% เท่านั้น แม้ว่าอาชีพครูจะเป็นได้ทั้งราชการ และเอกชน แต่สิ่งที่พ่อแม่สนใจมากกว่า คือ การได้รับราชการ ซึ่งจะเป็นอาชีพใดก็ได้ 

ในทางกลับกันถ้าเราถามเด็ก ๆ ถึงอาชีพในฝันของพวกเขา กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทยเผยผลสำรวจ Adecco Children Survey ปี 2564 ที่สำรวจความคิดเห็นเด็กไทยอายุ 7-14 ปี จำนวน 2,024 คน จากทั่วประเทศพบว่า 5 อันดับอาชีพในฝันของเด็ก ๆ คือ 

1. แพทย์ พยาบาล 20.95%
2. ครู 12.10%
3. YouTuber 7.46%
4. ดารา นักร้อง 5.09% 
5. ตำรวจ 4.79% 

เรียกได้ว่า ครูยังคงเป็นอาชีพในฝันของเด็ก ๆ อยู่ท่ามกลางการเกิดขึ้นของอาชีพใหม่ ๆ ในปัจจุบันอย่าง YouTuber เด็กที่อยากเป็นครูมีเปอร์เซ็นต์มากกว่าพ่อแม่ที่อยากให้ลูกตัวเองเป็นครู ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเกาหลีอย่างไม่น่าเชื่อ แถมเปอร์เซ็นต์ก็ยังไม่ห่างกันสักเท่าไรด้วย โดยผลการสำรวจพบว่า พ่อแม่ชาวเกาหลีอยากให้ลูกทำอาชีพเหล่านี้มากที่สุด

1. ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ 24.8%
2. แพทย์ เภสัชกร 15.2%
3. ครู อาจารย์ 7.6%
4. ทนายความ ผู้พิพากษา 5.7%
5. เชฟ 4.8%

แม้ครูจะติดอันดับ 3 แต่ก็ไม่ได้มีสัดส่วนที่สูงนักเมื่อเทียบกับ 2 อันดับแรก และสาเหตุที่พ่อแม่เลือกอาชีพดังกล่าวก็เพราะ

32.2% บอกว่า งานเหล่านี้ดูเครียดน้อยที่สุด 

14.6% บอกว่า เพราะไม่กำหนดอายุเกษียณ 

14.1% บอกว่า มีสภาพแวดล้อมในการทำงานและสวัสดิการที่ดี 

แม้ว่าบรรดาพ่อแม่ชาวเกาหลีจะอยากให้ลูกเป็นข้าราชการมากกว่าครูด้วยหนึ่งในเหตุผลว่า งานเครียดน้อยกว่า เพราะอย่างที่เราได้ยินกันตามสื่อบ่อย ๆ ว่า เกาหลีเป็นสังคมที่เผชิญกับความเครียดและความกดดันสูง พ่อแม่จึงอยากให้ลูกทำงานที่ไม่ต้องเครียดมาก ในแต่ความเป็นจริงแล้ว กระบวนการก่อนที่จะได้เป็นข้าราชการจริง ๆ นั้น ลูก ๆ ของพวกเขาจะต้องเตรียมตัวอย่างหนัก ทั้งเครียด และกดดันจากการสอบที่มีอัตราการแข่งขันที่สูงมาก

ถึงอาชีพครูอาจดูไม่ใช่อาชีพที่พิเศษมากในบางประเทศไม่เหมือนกับการเป็นครูในฟินแลนด์ ประเทศที่ได้ชื่อว่ามีการศึกษาดีที่สุดในโลก แต่ลองนึกเล่น ๆ ดูว่า สังคมเราจะหน้าตาเป็นอย่างไร ถ้าวันหนึ่งคนแห่กันมาทำอาชีพที่รายดีกว่า สวัสดิการดีกว่า ได้รับการนับหน้าถือตามากกว่า จนบางอาชีพที่ยังสำคัญ และจำเป็นเริ่มสูญหายไป คำตอบของพ่อแม่ที่อาชีพครูอาจสู้ข้าราชการไม่ได้ (ทั้ง ๆ ที่ครูอาจเป็นข้าราชการก็ได้) มันอาจสะท้อนว่า การเป็นครูไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็ยังมีจุดให้เราพัฒนาต่อได้อีกมากมาย

อ้างอิง
https://www.edweek.org/teaching-learning
https://nidapoll.nida.ac.th
https://adecco.co.th/th/knowledge-center/detail/children-dream-career-survey-2021