ถ้าไม่มีคิ้ว เราอาจจำหน้ากันไม่ได้
ถ้าต้องเลือกระหว่าง “ดวงตา” กับ “คิ้ว” เป็นเราจะเลือกอะไร บางคนเลือกดวงตา เพราะเป็นหน้าต่างของหัวใจ ส่วนคนที่เลือกคิ้วก็อาจจะบอกว่า คิ้วคือมงกุฎของใบหน้า หน้าสดยังไม่น่ากลัวเท่ากับหน้าที่ไม่มีคิ้ว แต่รู้หรือไม่ว่า ถ้าวันไหนเราเกิดคิ้วหายไป อาจจะเพราะเขียนคิ้วไม่ทันในวันที่เร่งรีบ วันนั้นเพื่อนอาจไม่ทัก เพราะเพื่อนจำเราไม่ได้ !! ใช่แล้ว คิ้วมีผลต่อการจดจำใบหน้าของคนเราอย่างมาก ชนิดที่ว่าต่อให้ดวงตาหายไป เราก็อาจจะยังพอจำกันได้ แต่ถ้าคิ้วหายไปเมื่อไร โอกาสที่เราจะจำหน้ากันได้นั้นจะยิ่งน้อยลง
ทำไมคิ้วถึงสำคัญ
ลองนึกภาพดูว่าเราจะอ่านสีหน้ากันออกได้อย่างไร ถ้าไม่มีคิ้ว เพราะคิ้วคืออวัยวะที่ใช้ในการแสดงออกทางอารมณ์ คนหูหนวกใช้การสื่อสารด้วยมือ คิ้วจึงมีบทบาทอย่างมากในการสื่อสารว่าผู้พูดกำลังรู้สึกอย่างไร เราเลิกคิ้วแทนการตั้งคำถามได้ โดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาสักคำ คิ้วไม่ได้สำคัญสำหรับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังสำคัญกับสัตว์บางชนิดด้วย เราพบว่าสุนัขที่ใช้คิ้วแสดงอารมณ์ได้เหมือนมนุษย์จะมีคนรับไปเลี้ยงมากกว่าหมาตัวอื่น ๆ
นักวิจัยเคยทำการทดสอบเพื่อดูการทำงานของคิ้วขณะแสดงอารมณ์สุข เศร้า โกรธ กลัว ขยะแขยง และประหลาดใจ โดยแบ่งใบหน้าออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนบนมีคิ้วและหน้าผาก ส่วนกลางมีตาและโหนกแก้ม และส่วนล่างคือ จมูก ปากและคาง นักวิจัยจะดูว่าสามส่วนของใบหน้าจะแสดงอารมณ์ทั้งหกออกมาอย่างไร ผลลัพธ์คือขณะที่แสดงอารมณ์ ใบหน้าส่วนบนโดยเฉพาะคิ้วจะมีการเคลื่อนไหว เช่น ตอนโกรธคิ้วจะย่นลงมาด้านล่าง และขมวดเข้าหากัน ตาจะหรี่ลง และปากก็จะปิดสนิท ถ้าเรานำใบหน้าคนมาเทียบกันขณะที่กำลังแสดงอารมณ์ต่าง ๆ จะเห็นว่ามีแค่องศาและความสูงของคิ้วเท่านั้นที่เปลี่ยนไป นั่นแปลว่าการเคลื่อนไหวของคิ้วอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนการแสดงอารมณ์บนใบหน้าได้แล้ว
เราจำอะไรได้มากกว่ากัน หน้าคนที่ไม่มีตา หรือไม่มีคิ้ว
เมื่อคิ้วสำคัญต่อการแสดงความรู้สึกมากขนาดนี้ นักวิจัยเลยทดลองดูว่าคิ้วจะส่งผลต่อการจดจำใบหน้าของคนเรามากน้อยแค่ไหน โดยจะมีภาพใบหน้าของผู้ชายผิวขาวและผู้หญิงผิวขาว เพศละ 25 คน มาให้ผู้เข้าร่วมทดลองได้ดู ส่วนใหญ่เป็นดาราทีวีหรือดาราหนัง แต่ก็มีนักดนตรี นักการเมือง นายแบบและนางแบบด้วย ซึ่งภาพเหล่านี้จะถูกลบตาออกเซตหนึ่ง ส่วนอีกเซตก็จะถูกลบคิ้วออกด้วยโปรแกรม Photoshop
ขอบคุณภาพประกอบจาก : https://web.mit.edu/sinhalab/Papers/sinha_eyebrows.pdf
ครึ่งแรกของการทดลอง ผู้เข้าร่วมทดลองจะได้ดูภาพคนดังที่ไม่มีคิ้ว 25 ภาพ และไม่มีตา 25 ภาพ แบบไม่เรียงลำดับ คือแต่ละคนจะได้เห็นแค่รูปคนดังรูปใดรูปหนึ่งระหว่างไม่มีตา หรือไม่มีคิ้ว และในช่วงครึ่งหลังของการทดลองก็จะได้ดูภาพคนดังทั้งหมด 50 ภาพแบบที่มีทั้งตาและคิ้วอีกครั้งแบบไม่เรียงลำดับ แต่ภาพเหล่านี้จะถูกตัดให้เห็นเฉพาะส่วนตรงกลางของใบหน้า โดยไม่เห็นผม หู ฯลฯ ที่อาจทำให้ผู้เข้าร่วมทดลองจดจำใบหน้านั้นได้ จากนั้นก็จะต้องกดแป้นพิมพ์หรือคลิกเมาส์ถ้าจำใบหน้าคนดังเหล่านั้นได้ แล้วพิมพ์ตอบว่าคนเหล่านั้นเป็นใคร อาจพิมพ์แค่ชื่อ หรือบอกข้อมูลอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับคน ๆ นั้น เช่น อาชีพ หรือทำไมถึงเป็นคนดัง เช่น เล่นหนังเรื่องอะไร หรือเล่นเป็นใครในเรื่อง ซึ่งไม่จำกัดเวลาในการตอบ
ผลลัพธ์ที่ได้น่าสนใจมาก ๆ พบว่า ผู้เข้าร่วมทดลองจำใบหน้าคนดังจากรูปที่มีตาได้ 56% และจำใบหน้าที่มีคิ้วได้ 46% แปลว่าคิ้วสำคัญกว่าตาในแง่ของการจดจำใบหน้า คำอธิบายที่ง่ายที่สุดอาจเป็นเพราะใบหน้าคนที่ไม่มีคิ้วจะดูต่างจากใบหน้าปกติมากกว่าใบหน้าที่ไม่มีตา นี่อาจเป็นเหตุผลเบื้องหลังแบบที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ว่า ทำไมเราถึงให้ความสำคัญกับการเขียนคิ้วทุก ๆ เช้า และทำไมการสักคิ้วถึงยังคงเป็นที่นิยมอยู่จนถึงทุกวันนี้
อ้างอิง
https://web.mit.edu/sinhalab/Papers/sinha_eyebrows.pdf
https://www.harpersbazaar.com/beauty/makeup/a11934/eyebrows-are-most-important-facial-feature/
https://www.youtube.com/watch?v=RA9nUUEuPJ8
