Learning pods ทางเลือกที่อาจรอด

A A
Oct 10, 2021
Oct 10, 2021
A A

Learning pods ทางเลือกที่อาจรอด

 

     อีกหนึ่งทางเลือกที่อาจรอดกับรูปแบบการเรียนรู้แนวใหม่ในยุคโควิด-19 ที่พอจะดูมีหวังและใกล้เคียงกับการเรียนในโรงเรียนมากที่สุด “Learning Pods”

หนทางที่จะจัดการกับปัญหาได้คือเผชิญหน้ากับมัน

     แม้โควิดจะยังไม่หายไป และไม่สามารถกลายเป็นโรคประจำถิ่นได้ในตอนนี้ ทางออกที่จะทำให้ผู้ปกครองมองเห็นอย่างมีความหวัง และเด็ก ๆ ยังได้เติบโตตามวัยอย่างมีศักยภาพ Learning pods หรือที่เรียกว่า pandemic pods, micro-schools หรือ nano-schools เป็นการรวมกลุ่มเล็ก ๆ ของนักเรียน (ประมาณ 3 ถึง 10 คน) ที่เรียนรู้ร่วมกันนอกห้องเรียน แต่ยังมีความเป็นส่วนตัวอยู่ มีการจ้างครูเพื่อสอนหนังสือตามหลักสูตร โดยผู้ปกครองช่วยกันเลือกหลักสูตรและรูปแบบการเรียนรู้ โดยใช้เนื้อหาที่ตกลงร่วมกันภายใน pods ซึ่งสามารถทำให้เด็ก ๆ ได้ความรู้ มีปฏิสัมพันธ์ มีการพัฒนาการอย่างที่ควรจะเป็น พ่อแม่ได้ทำงานโดยไม่ต้องรับภาระในการสอนหนังสือลูกจากการเรียนออนไลน์

 

     ในอเมริกาการเรียนรู้แบบ Learning pods ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ประมาณปลายเดือนมีนาคมปี 2020 แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับการจ้างครูและการทำ Learning pods ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ได้รองรับกับสภาพทางการเงินในทุกครอบครัว เพราะค่าใช้จ่ายในการทำ Learning pods มีแนวโน้มสูงขึ้น จากเดือนมกราคมซึ่งเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 101 ดอลล่าห์ต่อเดือน แต่ในเดือนมีนาคม 2021 ค่าเฉลี่ยของค่าใช้จ่ายของเด็กต่อคนในหนึ่งเดือนอยู่ที่ 524 ดอลล่าห์ หรือเทียบเท่ากับ 17,000 บาทไทย นับว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่มากอยู่พอสมควร แต่ก็ยังมีบางครอบครัวที่ยินดีที่จะจ่าย และครูในอเมริกาเองก็ให้ความสนใจอย่างมากกับการสอนรูปแบบนี้ เพราะอาจจะเป็นทางรอดของครูในยุคนี้เช่นเดียวกัน

 

     ในประเทศไทยก็มีบางครอบครัวลุกขึ้นมาทำแล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการรวมตัวเล็ก ๆ เพียง 4-5 ครอบครัวมา เพื่อหาทางออกสำหรับการเรียนของเด็ก ๆ มีการจ้างครูมาสอนเป็นรายสัปดาห์ โดยกลุ่มพ่อแม่เป็นคนเลือกหลักสูตรเองเพื่อหาความเป็นไปได้ในการเรียนรู้มากกว่าการเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน โดยอาจจะใช้บ้านหมุนเวียนหรือหาพื้นที่ส่วนกลางในการเปิดเป็น pods ในการเรียนรู้ การทำเช่นนี้ช่วยให้พ่อแม่มีเวลาในการทำงานมากขึ้นและเด็ก ๆ ได้มีการเรียนรู้ที่ส่งเสริมพัฒนาการของพวกเขา

 

     ถึงแม้ Learning pods จะเป็นทางเลือกหนึ่งแต่การเฝ้าระวังโรคก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะยิ่งคนใน pods มากเท่าไหร่ ความเสี่ยงต่อโควิดก็ยิ่งมากเท่านั้น ผู้ปกครองควรดูจำนวนเด็กในกลุ่มไม่ให้มากเกินไปเพื่อความปลอดภัยและควรเปิดเผยซื่อสัตย์กับสุขภาพของตัวเอง มีการตรวจ ATK สม่ำเสมอ กำหนดเกณฑ์ในการเข้า pods เช่น จำนวนคน การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ เป็นต้น

 

Learning pods

ข้อดีของการเรียนรู้แบบ Learning pods

1.เด็กช่วยกันเรียนรู้ เมื่อเด็ก ๆ อยู่ด้วยกันในกลุ่มที่มีความหลากหลาย ทั้งด้านความสามารถและอายุ ทำให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสช่วยสนับสนุนกันและกัน ช่วยกันเรียนรู้และสร้างทักษะ ทำให้เป็นประโยชน์ ต่อการเรียนรู้ เด็กๆ สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ในการทำงาน

2.เด็กสามารถเรียนรู้ทักษะทางสังคมสำหรับเด็กที่ต้องเรียนรู้การเข้าสังคม pods สามารถช่วยส่งเสริมการฝึกฝนในเรื่องนี้และเป็นที่ปลอดภัยสำหรับการสร้างมิตรภาพ ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม นอกจากนั้นยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กเพื่อเป็นพื้นฐานในวัยต่อไป นอกจากนี้ยังลดปัญหาการกลั่นแกล้งภายในโรงเรียนที่เด็ก ๆ อาจต้องเจอจากโรงเรียนอีกด้วย 

3.เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้มีพื้นที่แสดงความสามารถ pods เป็นที่เปิดโอกาสให้เด็กที่มีความสามารถพิเศษในสิ่งที่ตนเองสนใจได้ มีโอกาสแชร์ไอเดียให้กับครู หรือความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ และมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ที่อาจจะไม่มีโอกาสได้ทำในห้องเรียนปกติ

4.ช่วยสร้างแรงจูงใจการเรียนให้แก่เด็ก การอยู่ร่วมกันภายใน pods ส่งผลให้ผู้ใหญ่และเด็ก ๆ คนอื่นช่วยกันเป็นแรงผลักดันให้แก่กันและกัน เป็นแรงจูงใจในการเรียนรู้ ทำให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจภายในตัวเอง เมื่อได้รับคำชมเชยในความพยายาม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กในวัยนี้

 

     การเรียนรู้แบบ Learning pods อาจจะเป็นทางออกสำหรับการพัฒนาการทางด้านสังคม อารมณ์และการเรียนรู้ของเด็กเล็ก เพราะเด็กในช่วงนี้มีพัฒนาการที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว  และเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด เนื่องจากสมองของเด็กมีการเจริญเติบโตมากในช่วงวัยนี้ จึงต้องได้รับการตอบสนองในการเรียนรู้อย่างเหมาะสม เพื่อให้เขาเติบโตและสามารถรับมือกับทุกอุปสรรคปัญหาที่เข้ามาในชีวิตได้อย่างมีความสุข

 

อ้างอิง

 

Share

Authors

Authors

RELATED POSTS