เป็นข่าวฮือฮา และตื่นตัวกันไปทั่วโลกเมื่อ Facebook ประกาศก้าวเท้าเข้าสู่โลกของ Metaverse พร้อมการรีแบรนด์ใหม่หมด เทคโนโลยีใหม่ที่อาจจะยังดูเป็นเรื่องไกลตัวหลายคนยังไม่ค่อยเข้าใจ ว่าโลกเสมือนจริงที่ผู้คนต่าง connect กันได้มากกว่า Social Media นั้นหน้าตาเป็นยังไง และจะเกิดขึ้นแบบไหน แต่หากคิดย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน หลายคนก็คงคิดไม่ถึงว่าโทรศัพท์ไร้ปุ่มกดจะมาอยู่ในมือเราอย่างทุกวันนี้ เช่นเดียวกับในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าอินเทอร์เน็ตจะถูกรวมเข้ากับชีวิตประจำวันของเราอย่างเต็มที่เพียงใด จนทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นสิ่งที่เราขาดแทบไม่ได้กันไปแล้ว
Metaverseคืออะไร?
Metaverse สภาพแวดล้อมของโลกเสมือนที่ใช้ร่วมกันซึ่งผู้คนสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ตโดยใช้ Virtual Reality (VR) หรือ Augmented Reality (AR) สามารถตอบโต้กันได้แบบ Realtime ทุกอย่างจะเชื่อมต่อกันแบบ Always On และยังมีการใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการซื้อที่ดินเสมือนจริงหรือว่าสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ในโลกเสมือนได้อีกด้วย หรือหากใครยังนึกไม่ออกถึงการใช้ Metaverse จะขอยกตัวอย่างหนังบางเรื่องที่อาจจะทำให้ทุกคนเข้าใจมากยิ่งขึ้น เช่น Ready Player One ที่ผู้คนหันไปหา The Oasis โลกเสมือนจริงผ่านแว่น VR / AR เพื่อหลีกหนีความจริง ทั้งที่จริง ๆ แล้วเรายังคงนั่งอยู่กับที่และไม่ต้องไปที่ไหนเลย หรือหนังยอดฮิตตั้งแต่ปี 1999 อย่าง The Matrix ว่าด้วยเรื่องการต่อสู้แห่งอนาคตระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ประดิษฐ์ในโลกจำลองที่ชื่อว่า ‘The Matrix’ ซึ่งหมายความว่าต่อจากนี้ในอนาคตทุกคนอาจจะสามารถไปคอนเสิร์ตได้โดยที่เราอยู่ที่บ้าน ดูแข่งกีฬาได้โดยตรงจากสนามแข่ง หรือสามารถลองเสื้อผ้าเสมือนจริงได้ในสภาพแวดล้อมแบบ Metaverse ก็เป็นได้
แล้วโลกการศึกษาจะมีหน้าตาอย่างไรในโลกของ Metaverse
ทุกวันนี้ผู้คนคุ้นเคยกับการเรียนรู้ในรูปแบบของออนไลน์กันมากขึ้น มีการโต้ตอบกันได้อย่าง Real Time และมีการใช้ Virtual Reality (VR) หรือ Augmented Reality (AR) มาเป็นสื่อประกอบในการเรียน แต่ถึงอย่างนั้นเองก็อาจไม่เพียงพอต่อบางทักษะที่จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์จริง สัมผัสจริง เช่น หมอ นักวิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกร แต่โลกของ Metaverse จะทำให้การเรียนวิชาเหล่านี้สมจริงมากยิ่งขึ้น
มีแนวโน้มว่าพื้นที่เสมือนจริงแห่งแรกสำหรับการศึกษาจะอยู่ในบริบทของกิจกรรมในมหาวิทยาลัย หรือการบรรยายในชั้นเรียนด้วยการจำลอง 3 มิติ การมีส่วนร่วมในชั้นเรียนน่าจะเป็นเชิงกิจกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการเล่นเกม หรือการเรียนรู้เสมือนจริง และเทคโนโลยีเสมือนจริงนี้อาจสามารถเสริมทักษะให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมก่อนที่จะเข้ารับการทำงานจริง เพื่อพัฒนาวิชาชีพสำหรับการประกอบอาชีพในอนาคต มหาวิทยาลัยทั่วโลกอาจกำลังอยู่ในจุดเริ่มต้นเดียวกันที่จำเป็นต้องคิดค้นและบุกเบิกแนวทางสำหรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปได้สำหรับโลก Metaverse รวมถึงแนวทางที่จะส่งเสริมกิจกรรมในการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาเพื่อสร้างประสบการณ์ในการเรียนรู้ที่หลากหลาย
วงการเทคโนโลยี เภสัชกรรม และวิทยาศาสตร์ สามารถมีบทบาทในมหาวิทยาลัยโดยมีการเปิดกว้างให้นักศึกษาเข้ามาเรียนรู้ในส่วนงานที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติมได้ เกิดการจำลองบรรยากาศในการทำงานจริงเกิดขึ้น นักวิทยาศาสตร์ชีวภาพจะสามารถทำการทดลองสดในห้องปฏิบัติการ AR และ VR ได้ ในขณะที่คนเขียนโค้ดและนักศึกษาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์สามารถจำลองการแฮ็กและการฝึกป้องกันแบบ Realtime บนโครงสร้างพื้นฐานในชีวิตจริงได้
การประกาศการพลิกโฉมครั้งนี้จาก Mark Zuckerberg เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ใหม่ของการเรียนรู้ที่อาจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ผู้คนในสังคมมุ่งไปสู่การเรียนรู้นอกสถานที่ เรียนผ่านประสบการณ์จริงมากขึ้น และสามารถเรียนรู้ได้จากทุกที่ การท่องจำอาจหมดไป การเรียนจะเกิดขึ้นในทุกมิติ ทุกพื้นที่และทุกเวลาของการใช้ชีวิต ผู้เรียนสามารถเลือกฝึกทักษะที่ตนเองสนใจได้อย่างเต็มที่ โลกเสมือนจริงอาจก้าวไปไกลกว่าโลกแห่งความเป็นจริง ระบบนิเวศที่เพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียจะเปิดใช้งานรูปแบบการเรียนรู้อื่น ๆ อีกมากมาย หนทางเดียวที่เราทุกคนจะก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้คือการ Never-Ending Learning คำถามคือวันนี้เราพร้อมแค่ไหน? และหยุดที่จะเรียนรู้แล้วหรือยัง ?
อ้างอิง
https://reut.rs/3wmYoFw
https://bit.ly/3CVJUyU
https://bit.ly/3CQLIZF
https://bit.ly/3qbXFWu
https://bit.ly/3k8iXk7
https://bit.ly/2ZQLyD8
