10 บทเรียนเมื่อเราทำงานที่ไม่ได้รัก

     ว่ากันว่าคนที่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก หรือรู้ตัวว่าชอบอะไรแล้วได้ทำสิ่งนั้นเป็นอาชีพเป็นคนที่โชคดีที่สุด น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่บนโลกอาจไม่ได้โชคดีแบบนั้น แต่ถ้ามองกันดี ๆ แล้ว บางครั้งงานที่โคตรเกลียดนี่แหละกลับให้อะไรดี ๆ ได้มากกว่าที่คิดเมื่อมองย้อนกลับไป 

1.ความมุ่งมั่นและการปรับตัวในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ

อย่ายอมแพ้ทันทีที่เจองานยาก เว้นแต่มันจะมีผลต่อสุขภาพกายและจิตของเรา การปรับตัวท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากและท้าทายทำให้เห็นว่าเราสามารถรับมือกับมันได้มากกว่าที่คิด นี่เป็นคุณสมบัติที่ทรงพลัง อาจทำให้เราได้ค้นพบอะไรดี ๆ หลายอย่าง เมื่อทุ่มเทกับงานที่ไม่ชอบ เราจะเริ่มเห็นโอกาสใหม่  ๆ เมื่อเวลาผ่านไป อาจได้ปรับตำแหน่ง มีหัวหน้าคนใหม่ หรือเพื่อนร่วมงานคนใหม่เข้ามา มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลาอยู่แล้วในบริษัท ต่อให้เราได้งานที่ชอบจริง ๆ ใครจะรู้ว่าสักวันหนึ่งมันอาจไปถึงจุดที่เราไม่ชอบงานนั้นก็ได้

2.เรียนรู้ที่จะมองโลกในแง่บวกท่ามกลางสถานการณ์ที่แย่

ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบตลอดเวลา ทุกคนล้วนมีช่วงที่แย่ของชีวิต แม้คนที่ได้ทำงานที่ตัวเองรักก็ตาม แต่ถ้าเรามองเห็นข้อดีของงานนี้ เช่น กินมื้อเที่ยงฟรี ได้เข้าฟังสัมมนาที่น่าสนใจ เราจะรู้สึกดีขึ้น สิ่งสำคัญคือไม่มีอะไรคงทนถาวรตลอดไป เราเลือกได้เสมอว่าจะอยู่กับงานนี้แล้วทำให้มันดีขึ้น หรือไปหางานที่ใช่มากกว่า

3. เรียนรู้ที่จะมี Work-Life Balance

งานที่ไม่ชอบจะทำให้เราเริ่มมองหากิจกรรมอื่น อาจเป็นงานอดิเรกที่ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต หรือกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินเพื่อเบรกสมองจากเรื่องงาน ฉะนั้น งานแบบนี้นี่แหละจึงสอนว่าเราจะแยกชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัวออกจากกันอย่างไรเพื่อสร้างชีวิตที่สมดุล ถ้าเราทำงานที่ชอบหรือรักมาก ๆ บางครั้งการแยกสองเรื่องนี้ออกจากกันก็เป็นเรื่องยาก

4. จรรยาบรรณที่ดีในการทำงานจะมีประโยชน์กับเราในวันข้างหน้า

เราอาจฟาดงวงฟาดงาเมื่อเราไม่พอใจอะไรบางอย่าง โดยอาจทำงานให้ช้าลง หรือลดมาตรฐานการทำงานลง นี่จะทำให้เราดูแย่ แต่ถ้าเราทำเต็มที่โดยไม่สนใจความคิดแง่ลบที่เกิดขึ้น เราจะดูเป็นมืออาชีพ และอาจได้รับการแนะนำต่อซึ่งจะช่วยให้เราได้งานที่รักเมื่อถึงเวลา

5.งานทุกชนิดเพิ่มทักษะเราได้

เราอาจคิดว่างานที่เราเกลียดไม่ได้ช่วยเพิ่มทักษะอะไรเลย ความจริงแล้วงานทุกอย่างให้ความรู้และประสบการณ์บางอย่าง แม้แต่งานที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเลย ไม่ได้ใช้ความคิด หรือต้องทำอะไรซ้ำซาก จำเจ

6.เห็นตัวเองชัดเจนขึ้น

ถ้าเราไม่สนุกกับงานที่ต้องนั่งอยู่ออฟฟิศทั้งวัน แต่ชอบที่จะได้ออกไปข้างนอก เราอาจได้เห็นตัวเองชัดขึ้นว่าเป็นคนไม่ชอบความจำเจ งานที่ได้เดินทางบ่อย ๆ หรือพบปะผู้คนใหม่ ๆ อาจเหมาะกับเรามากกว่า การได้ลองทำเพื่อให้รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบย่อมดีกว่าคิดเองว่าชอบโดยที่ไม่เคยทำ

7.กดดันน้อยลงเมื่อหางานใหม่

ลองคิดดูว่าถ้าเราตกงานขณะที่หางานใหม่มันจะกดดันแค่ไหน อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังพอมีเงินมาใช้จ่ายทุกเดือน ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังเสียทีเดียว

8.เห็นคุณค่าของความสุขมากขึ้น

บางครั้งเงินก็เป็นแรงผลักดันที่ดีของการทำงาน แต่เมื่อต้องทำงานที่ไม่ชอบ เราจะเห็นค่าของความสุขในที่ทำงานและชีวิตประจำวันมากขึ้น เพราะสุดท้ายแล้ว งานคือสิ่งที่เราใช้เวลาด้วยมากที่สุดในแต่ละวัน

9.ได้เจอผู้คนใหม่ ๆ

งานใหม่คือโอกาสที่เราจะได้เจอผู้คนและโอกาสใหม่ ๆ แม้เราจะไม่ได้ชอบทุกคนที่ทำงานด้วย แต่อย่างน้อยก็จะมีสักคนสองคนที่เราชอบ ถ้าไม่ได้ทำงานนี้ เราจะไม่มีทางได้เจอคนเหล่านี้เลย อย่างน้อยเราก็อาจเจอคนที่คุยด้วยแล้วถูกคอมาก ๆ หรือชอบทำอะไรคล้าย ๆ กัน 

10.เรียนรู้ที่จะสร้างคุณค่าให้งานนั้น

เมื่อเราไม่ชอบงาน เราจะมองแค่ว่ามันก็คืองานอย่างหนึ่ง แต่งานที่ถูกกฎหมายทุกงานบนโลกนี้มีประโยชน์ต่อใครบางคนเสมอ มิฉะนั้น มันคงไม่มีประโยชน์ที่จะมีงานนั้น ๆ เมื่อเราให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าของงานที่ทำอยู่ มุมมองที่เรามีต่องานนั้นจะเปลี่ยนไปทันที เราจึงต้องหาให้เจอว่างานที่ทำอยู่ให้คุณค่าอะไรกับใคร

           อ่านมาครบ 10 ข้อแล้ว บางคนอาจนึกข้อ 11 ข้อ 12 ต่อไปได้เรื่อย ๆ ถึงมันจะแย่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นแย่จนไม่มีอะไรดี หวังว่าวันพรุ่งนี้เมื่อต้องตื่นขึ้นมาทำงานที่เราไม่ได้รัก เราจะมีความสุขและเห็นคุณค่าในงานของเรากันมากขึ้น

อ้างอิง
 https://www.seek.com.au/career-advice/article/5-lessons-you-learn-from-a-job-you-hate
https://www.youtube.com/watch?v=mpy3N_I6MXY
https://www.pertemps.co.uk/candidates/career-advice/life-at-work/7-valuable-lessons-you-can-learn-from-a-job-you-hate/
https://www.theladders.com/career-advice/lessons-learn-job-hate
https://www.yourtango.com/2019325944/how-to-love-your-dead-end-job
https://www.youtube.com/watch?v=tf3bqGPsK_o