เมื่อ YouTube หันมาส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตของวัยรุ่น
- การใช้ Social Media ที่เยอะขึ้นสอดคล้องกับการอดนอน ความคิดฆ่าตัวตายและการใช้สารเสพติด
- YouTube ได้เพิ่มฟีเจอร์ในการพักสายตาและเข้านอนเพิ่มเข้ามาแก่เด็ก ๆ โดยในผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งระบบจะเปิดใช้การช่วยเตือนเหล่านี้ไว้โดยค่าเริ่มต้นสำหรับบัญชีผู้ใช้โดยช่วยเตือนให้พักสายตาทุก 60 นาที
- YouTube ได้ยกระดับความปลอดภัยนี้ เมื่อเด็ก ๆ ได้ดูวิดีโอหัวข้อที่สุ่มเสี่ยงกับการฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเอง หรือค้นหาเกี่ยวกับเรื่องที่สุ่มเสี่ยง ระบบของ YouTube จะพาไปที่หน้าหยุดชั่วคราวและมีตัวเลือกต่างๆ ให้เลือกดำเนินการต่อ เช่น สายด่วนสุขภาพจิต หรือบริการให้คำปรึกษาผ่านเวป
เมื่อใคร ๆ ต่างก็เสพคอนเทนต์จากสื่อ Streaming ไม่ว่าจะเป็นคนวัยไหน YouTube จึงเป็นเสมือนจุดเชื่อมของการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์เรื่องใหม่ วิธีทำการบ้านคณิตศาสตร์ หรือแม้แต่การฟังเพลงจากศิลปินคนโปรด จึงเป็นเหตุผลที่ YouTube มีนโยบายจำเป็นต้องให้ความสนใจกับเนื้อหาคอนเท้นต์ที่อยู่บนแพลตอฟอร์มโดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวและความเป็นอยู่ที่ดี
ปัจจุบันเด็กและวัยรุ่นเติบโตขึ้นมาในโลกที่การออนไลน์ไม่ได้เป็นเพียงความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต เป็นการค้นหาตัวตนและเป็นรากฐานในการเรียนรู้ เด็กอเมริกันประมาณสามในสี่มีสมาร์ทโฟนเมื่ออายุ 13 ปี มีวัยรุ่นร้อยละ 97 ใช้อินเทอร์เน็ตทุกวัน และ YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด วัยรุ่นประมาณเจ็ดในสิบเข้าใช้งานในแพลตฟอร์ม YouTube ทุกวัน
และบ่อยครั้งที่เด็ก ๆ ใช้เวลากับหน้าจอเยอะเกินพอดี จากแบบสำรวจ SHARP ปี 2023ได้สอบถามนักเรียน 52,000 คนทั่วทั้งรัฐยูทาห์เกี่ยวกับการใช้เวลาอยู่หน้าจอ นักเรียนในรัฐยูทาห์เกือบ 80% (79.8%) ใช้เวลาดูหน้าจอตั้งแต่สองชั่วโมงขึ้นไปต่อวัน (ไม่นับงานโรงเรียน) เพิ่มขึ้น 66.7% ในปี 2019 ซึ่งการใช้งานหน้าจอที่เยอะขึ้นสอดคล้องกับการอดนอน ความคิดฆ่าตัวตายและการใช้สารเสพติด
YouTube เพิ่มฟีเจออร์พักสายตา
YouTube จึงได้เพิ่มฟีเจอร์ในการพักสายตาและเข้านอนเพิ่มเข้ามาแก่เด็ก ๆ โดยในผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งระบบจะเปิดใช้การช่วยเตือนเหล่านี้ไว้โดยค่าเริ่มต้นสำหรับบัญชีผู้ใช้โดยช่วยเตือนให้พักสายตาทุก 60 นาที เพราะการนอนที่ไม่ดีส่งผลต่อสุขภาพจิตในระยะยาว ส่งผลให้เกิดการเปรียบเทียบทางสังคมซึ่งสัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้าวิตกกังวล และส่งผลให้เกิดการฆ่าตัวตาย
Zelazny, PhD, RN,ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย Pittsburgh ได้กล่าววว่าการฆ่าตัวตายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับสองในกลุ่มบุคคลอายุระหว่าง 10 ถึง 24 ปี นอกจากนี้ อัตราการฆ่าตัวตายยังเพิ่มขึ้นสามเท่าในหมู่เยาวชนอายุ 10 ถึง 14 ปี ซึ่งสอดคล้องกับการใช้ social media ที่เพิ่มขึ้น
สิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้เพื่อเป็นการป้องกันคือพยายามหมั่นตรวจสอบเด็ก ๆ ว่าพวกเขาสนใจ social media มากเกินไปหรือไม่ พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต สร้างบรรทัดฐานในครอบครัว สอนเด็กๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีและส่งเสริมให้ใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบตามวัยที่เหมาะสม ไม่เพียงแค่นั้นการป้องกันจาก Platform เองก็มีส่วนสำคัญในการป้องกันวัยรุ่นจากการฆ่าตัวตาย
YouTube ยกระดับความปลอดภัยจากการค้นหา
YouTube ได้ยกระดับความปลอดภัยนี้เมื่อเด็ก ๆ ได้ดูวิดีโอหัวข้อที่สุ่มเสี่ยงกับการฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเอง หรือค้นหาเกี่ยวกับเรื่องที่สุ่มเสี่ยง ระบบของ YouTube จะพาไปที่หน้าหยุดชั่วคราวก่อนที่จะแสดงผลการค้นหา และมีตัวเลือกต่างๆ ให้เลือกดำเนินการต่อ เช่น สายด่วนสุขภาพจิต หรือบริการให้คำปรึกษาผ่านเวป เป็นต้น รวมถึงคำแนะสำหรับคำค้นหาเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ เช่น “ความเห็นอกเห็นใจในตนเอง” หรือ “วิธีฝึกจิตใจให้เข็มแข็ง” เพื่อให้เด็ก ๆ ได้สำรวจความคิดและมีความยับยั้งชั่งใจ เพื่อช่วยให้ใจเย็นลงเมื่ออยู่ในสภาวะความทุกข์ใจ
ในโลกของดิจิทัลที่ความรู้อยู่แค่เพียงปลายนิ้วการควบคุมสื่อออนไลน์อาจเป็นไปได้ยาก แต่สิ่งที่ผู้ใหญ่และผู้ที่มีส่วนร่วมช่วยผลักดันได้คือการให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ รวมไปถึงความรับผิดชอบ ในการใช้สื่อออนไลน์อย่างสร้างสรรค์แก่เด็ก ๆ การมีองค์ความรู้ที่ดีนี่เองที่จะช่วยผลักดันให้โลกออนไลน์น่าอยู่และสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อให้อินเตอร์เน็ตยังคงทรงพลังสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป
อ้างอิง
- https://socialharms.utah.gov/english/how-does-social-media-affect-sleep/
- https://www.healio.com/news/psychiatry/20201005/social-media-use-may-play-important-role-in-youth-suicide-expert-says
- https://healthcare.utah.edu/healthfeed/2023/01/impact-of-social-media-teens-mental-health
- https://www.pewresearch.org/internet/2023/12/11/teens-social-media-and-technology-2023/
- https://www.washingtonpost.com/creativegroup/youtube/how-youtube-is-working-to-support-teens-mental-health-wellbeing-and-safety-online/