การจับมือกันนั้นดีอย่างไร ทำไมเราถึงจับมือกัน

การจับมือกัน ดูเป็นเรื่องคุ้นชินกับเราตั้งแต่เด็กจนเราไม่เคยตั้งคำถามว่าทำไม และมันส่งผลอย่างไรต่อชีวิตของเรา

การจับมือ ดูเป็นเรื่องคุ้นชินกับเราตั้งแต่เด็กจนเราไม่เคยตั้งคำถามว่าทำไม และมันส่งผลอย่างไรต่อชีวิตของเรา ตั้งแต่แรกเกิดคนเป็นพ่อแม่มักจะเคยชินกับภาพมือเล็ก ๆ จับนิ้วมือแม่ไว้ พอโตมาหน่อยเด็ก ๆ ก็จับมือแม่กับพ่อในการหัดเดิน หรือหากเขาต้องการความปลอดภัยไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนการจับมือก็ยังสำคัญแม้กระทั่งเวลาหลับ ไม่ว่าจะโตแค่ไหนการจับมือก็ยังสำคัญ ทั้งช่วงวัยทำงาน วัยชรา หรือแม้กระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต ทุกคนเองก็มักจะใช้วิธีจับมือกันและกันให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้เสมอเพื่อเป็นการบอกรัก ให้กำลังใจ และบอกลา

“การสัมผัสคือการให้ชีวิต” – ไมเคิลแองเจโล

การจับมือ เป็นการกระทำที่เรียบง่ายแต่เพิ่มความใกล้ชิด แสดงความสัมพันธ์ได้อย่างลึกซึ้ง ทำไมแค่เพียงอวัยวะสัมผัสกันถึงทำให้มีพลังขนาดนั้น แท้จริงแล้วมนุษย์ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ค้นหาสัมผัสของกันและกันก่อนที่จะเกิดด้วยซ้ำ ทารกในครรภ์เองพวกเขามักจะกำสายสะดือ เอามือเข้าปาก หรือดูดนิ้วโป้ง และเมื่อคลอดพวกเขาตอบสนองสัญชาตญาณที่แสดงออกในมนุษย์ได้เร็วที่สุด นั่นคือปรากฎการณ์ grasping reflex หรือปฏิกิริยากำมือ สัญชาตญาณที่ทำให้ทารกจับนิ้วของพ่อแม่

การสัมผัสสร้างสารเคมีที่ให้ความรู้สึกดี

งานวิจัยที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียลอสแองเจลิส (UCLA) แสดงให้เห็นว่าการสัมผัสของมนุษย์กระตุ้นการหลั่งของอ็อกซิโตซินหรือที่เรียกว่า “ฮอร์โมนแห่งความรัก” ในสมองของเราอ็อกซิโตซินเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกไว้วางใจ ความเอื้ออาทร ความเห็นอกเห็นใจ ลดความรู้สึกกลัว และวิตกกังวล จากการศึกษาวิจัยหลายครั้งที่ TRI Field ได้สรุปว่าการสัมผัสทางกายภาพสามารถส่งผลกระทบต่อส่วนสำคัญต่าง ๆ ของร่างกายรวมถึงการจัดการความเจ็บปวด และความดันโลหิตลดลง ความไว้วางใจที่เพิ่มขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น การมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ที่มากขึ้น และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโดยรวม

นักจิตวิทยา Jim Coan จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียได้ทำการทดลองโดยนำคู่รักมาที่ห้องแล็บของเขา และสแกนโดยเครื่อง fMRI เพื่อดูกิจกรรมในสมองของพวกเขาเมื่อเกิดความเครียด การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าเมื่อเราเครียด การจับมือคนที่คุณรักสามารถลดความเครียดได้ การจับมือกับคนที่คุณไว้ใจ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คู่ชีวิต พ่อแม่ พี่ น้อง ก็ส่งผลดีต่อสุขภาพในการลดฮอร์โมนความเครียด (เช่น คอร์ติซอล) และทำให้อัตราการเต้นของหัวใจลดลง ไม่เพียงเฉพาะคู่รักหรือเพื่อนเท่านั้น การจับมือลูก ๆ ของเราก็พิเศษเช่นเดียวกัน การวิจัยชี้ให้เห็นว่าการสัมผัสมีความสำคัญเป็นพิเศษในการลดความเครียดในเด็กและทารกได้เช่นกัน มีการพิสูจน์แล้วว่าการสัมผัสสามารถลดการร้องไห้ ลดความเครียด ส่งเสริมการนอนหลับ ซึ่งผลกระทบเหล่านี้สามารถอยู่ได้นานจนเมื่อพวกเขาเติบโตได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เด็ก ๆ ที่ถูกเลี้ยงดูโดยไม่ถูกอุ้ม สัมผัส หรือกอดเลย ส่งผลให้มีปัญหาทางร่างกาย และการเจริญเติบโตแคระแกร็นถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้รับสารอาหารที่เหมาะสมก็ตาม

เด็ก ๆ สามารถเติบโตได้ผ่านการโอบกอด

นักวิจัยพบว่าทารกที่คลอดก่อนกำหนดกลุ่มหนึ่งได้รับการสัมผัสจากมารดาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ในขณะที่ทารกคลอดก่อนกำหนดกลุ่มที่สองอยู่ในตู้อบ ผลการทดสอบพบว่าทารกที่ได้รับการสัมผัสมีความเครียดลดลง การนอนหลับดีขึ้น และมีความสามารถด้านความรู้ความเข้าใจที่ดีกว่าทารกที่อยู่ในตู้อบเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงเท่านั้นผลกระทบเหล่านี้ยังคงปรากฎชัดแม้ว่าเวลาจะผ่านไป 10 ปี หรือแม้กระทั่งพวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ก็ตาม การศึกษาพบว่าผู้ใหญ่ที่ถูกอุ้มและกอดตั้งแต่ยังเป็นทารกมีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพแข็งแรง และปรับตัวได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้รับการสัมผัสเลย Charles Nelson ศาสตราจารย์ด้านกุมารเวชศาสตร์ที่ Harvard Medical School ศึกษาวัดความก้าวหน้าของพัฒนาการของเด็กหลายร้อยคนที่เลี้ยงในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในโรมาเนียที่มีฐานะยากจน ซึ่งเด็ก ๆ เหล่านี้ถูกเลี้ยงดูโดยไม่ถูกอุ้ม สัมผัส หรือกอดเลย เด็กหลายคนมีปัญหาทางร่างกาย และการเจริญเติบโตแคระแกร็นถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้รับสารอาหารที่เหมาะสมก็ตาม

การสัมผัสเป็นสัญชาติญาณตั้งแต่แรกเกิดเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น การจับมือกันสามารถควบคุมระบบประสาทของเราได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนมักต้องการในช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศก ตกใจ หรือกลัว ดังนั้นหากลูกของคุณไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนและถ้าพวกเขากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่กดดันในชีวิต ท้อแท้ หรือโศกเศร้า การโอบไหล่ จับมือ หรือกอดเขาเบา ๆ ก็สามารถปลดปล่อยพลังเพื่อให้เขามีจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณที่ดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ มีการพิสูจน์แล้วว่ามนุษย์เป็นสายพันธุ์เดียวที่สามารถสนทนาอย่างมีความหมายผ่านการสัมผัสผ่านมือ เพราะการสัมผัสมีความสำคัญต่อการพัฒนาชีวิตและส่งผลต่อความเป็นมนุษย์

วันนี้เราจับมือลูกแล้วหรือยัง ?

อ้างอิง
https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-baby-scientist/202202/why-people-hold-hands
https://www.huffpost.com/entry/power-of-holding-hands_n_57435a8be4b00e09e89fc162
https://www.scarymommy.com/why-we-hold-hands-with-the-people-we-love
https://www.visiontimes.com/2022/01/18/6-hand-holding-benefits.html