จริงไหมเด็กเรียนเก่ง ทำนายได้ตั้งแต่เกิด

A A
Oct 20, 2023
Oct 20, 2023
A A

 

จริงไหมเด็กเรียนเก่ง ทำนายได้ตั้งแต่เกิด

 

 

  • วิทยาศาสตร์พบว่า “พันธุกรรม” และ “สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม” ของพ่อแม่เป็นตัวทำนายความสำเร็จทางการศึกษาของเด็กได้มีอย่างประสิทธิภาพ แต่พันธุกรรมที่สืบทอดจากพ่อแม่ทำให้เด็กประสบความสำเร็จทางการศึกษาได้ไม่เท่ากับการที่พ่อแม่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีกว่า
  • การส่งเด็กที่มีความเสี่ยงจะได้รับพันธุกรรมที่แย่จากพ่อแม่ไปเรียนในโรงเรียนที่มีคะแนนสูงจากการทดสอบระดับชาติจะช่วยให้เด็กมีผลการเรียนที่ดีขึ้นได้

 

เชื่อไหมว่า เดี๋ยวนี้ไม่ต้องรอให้เด็กโตจนเข้าโรงเรียน เราก็สามารถทำนายได้แล้วว่า เด็กคนนั้นจะประสบความสำเร็จทางการศึกษามากแค่ไหน นี่เป็นคำทำนายที่ไม่ต้องพึ่งหมอดู เพราะวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า โอกาสที่เด็กจะประสบความสำเร็จทางการศึกษามาจากปัจจัยหลัก 2 อย่างด้วยกัน นั่นก็คือ พันธุกรรมที่สืบทอดจากพ่อแม่ และการที่พ่อแม่มีฐานะและมีการศึกษาที่ดี ความน่าสนใจอยู่ที่ปัจจัย 2 อย่างนี้ให้ผลได้ไม่เท่ากัน อะไรส่งผลต่ออนาคตทางการศึกษาของเด็กได้มากกว่า และงานวิจัยนี้จะมีประโยชน์ในการนำไปต่อยอดในอนาคตได้อย่างไร

 

คงไม่แปลกถ้าเราได้ยินข่าวป้าข้างบ้านที่เป็นหมอมีลูกชายที่เพิ่งสอบติดหมอไปหมาด ๆ ใคร ๆ ก็น่าจะเดาได้ว่า เพราะบ้านนี้มียีนดี พ่อแม่ฉลาด ลูกก็น่าจะฉลาดตามไปด้วย แต่ถ้าเราได้ยินอีกข่าวหนึ่งว่า ลูกสาวของเพื่อนแม่สอบชิงทุนไปเรียนต่อนอกได้ เราน่าจะตื่นเต้นยินดีกับข่าวหลังมากกว่า ไม่ใช่เพราะเราไม่ชอบป้าข้างบ้าน แต่เพราะการสอบชิงทุนไปเรียนต่อนอกได้เป็นเรื่องที่มีการแข่งขันสูง แถมบ้านนี้ก็ยังไม่เคยมีใครไปเรียนเมืองนอกเลยสักคน ถ้าเราให้วิทยาศาสตร์ทำนายอนาคตด้านการศึกษาของ 2 คนนี้ วิทยาศาสตร์สามารถบอกได้ตั้งแต่เกิดว่า ทั้งคู่น่าจะไปได้ไกล แต่ไม่ใช่เพราะปัจจัยเดียวกัน ลูกชายป้าข้างบ้านเรียนเก่ง เพราะป้าเป็นหมอเลยได้ยีนฉลาดจากป้า ส่วนลูกสาวเพื่อนแม่คนนี้ แม่ของเธอมีธุรกิจส่วนตัว และเรียนจบป.โท มาด้วย ข้อมูลทั้งหมดนี้แหละที่ทำนายอนาคตการศึกษาของ 2 คนนี้ได้อย่างชัดเจน

การศึกษาที่นำโดยมหาวิทยาลัย York ร่วมมือกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย College London, King’s College London และ New Mexicoได้ทำการวิจัยกับเด็ก 5,000 คนที่เกิดในสหราชอาณาจักรระหว่างปี 1994-1996 โดยดูผลคะแนนสอบของเด็กในช่วง Key Stage ต่าง ๆ ของการศึกษา ซึ่งจะมีการแบ่งเด็กตามช่วงอายุ ดูข้อมูลการทำงานและการศึกษาของพ่อแม่ รวมถึงคะแนนทางพันธุกรรม ผลพบว่า “พันธุกรรม” และ “สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม” ของพ่อแม่เป็นตัวทำนายความสำเร็จทางการศึกษาของเด็กได้มีอย่างประสิทธิภาพ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจกว่า คือ พันธุกรรมที่สืบทอดจากพ่อแม่ทำให้เด็กประสบความสำเร็จทางการศึกษาได้ไม่เท่ากับการที่พ่อแม่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีกว่า พูดง่าย ๆ คือ พ่อแม่มีการศึกษาสูงและร่ำรวยนั่นเอง โดยข้อมูลแสดงให้เห็นถึงอัตราการเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของนักเรียนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เด็กที่ได้พันธุกรรมที่ดี แต่พ่อแม่ไม่ได้มีการศึกษาสูงและร่ำรวย มีเพียงแค่ 47% ที่เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนเด็กที่ได้พันธุกรรมที่แย่กว่าจากพ่อแม่ แต่พ่อแม่มีฐานะที่ร่ำรวยจะเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ 62%

 

 

เด็กเรียนเก่งทำนายได้ตั้งแต่เกิด

ชื่อภาพ : การเรียนรู้

 

 

แล้วจะเป็นอย่างไรถ้าเด็กมีพ่อแม่ที่พันธุกรรมดี และยังมีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีด้วย นักวิจัยพบว่า เด็กกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ได้เปรียบที่สุด โดย 77% จะเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย ในขณะที่เด็กที่ได้รับพันธุกรรมที่แย่กว่า และมาจากครอบครัวที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่แย่กว่ามีเพียง 21% เท่านั้นที่เรียนต่อมหาวิทยาลัย งานวิจัยนี้สะท้อนให้เราเห็นว่า ทั้งพันธุกรรมและสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นผลของธรรมชาติและการเลี้ยงดูที่มีอิทธิพลอย่างมากต่ออนาคตเด็ก นั่นแปลว่า ทันทีที่เด็กเกิดมา ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษาก็เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเข้าสู่ระบบการศึกษาเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าศาสตราจารย์ Sophie von Stumm ผู้วิจัยอาวุโสของการวิจัยนี้จะมองว่า ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังคงมีประโยชน์ในการช่วยระบุว่า เด็กคนไหนมีความเสี่ยงที่จะเข้าถึงการศึกษาที่น้อยกว่าเพื่อน หรือมีผลการเรียนที่แย่กว่าเพื่อนได้ เท่ากับว่าเรามีโอกาสที่จะสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษาให้เด็กได้มากขึ้น

 

วิธีช่วยให้เด็กเรียนเก่งขึ้นในการเรียนรู้

 

การช่วยให้เด็กประสบความสำเร็จทางการศึกษาไม่ได้เป็นเรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง ครู บุคลากรทางการศึกษา พ่อแม่ และชุมชนต้องทำงานร่วมกัน ความท้าทายอยู่ที่เมื่อเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราจึงไม่สามารถใช้วิธีการเดิม ๆ กับเด็กทุกคนได้ เพราะวิธีการเหล่านั้นอาจไม่เข้ากับความสนใจหรือทักษะเฉพาะของเขา

 

เด็กที่จะประสบความสำเร็จทางการศึกษาได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากเขารักในการเรียนรู้ ซึ่งผู้ใหญ่สามารถปลูกฝังและช่วยจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้เด็กได้ ด้วยการช่วยให้เด็กเกิดความเข้าใจตนเอง ช่วยสร้างความเชื่อมโยงกับสิ่งที่เด็กชอบ แล้วสร้างประสบการณ์และความรู้ให้เขา

 

อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งโดย Rosa Cheesman นักศึกษาหลังปริญญาเอก ภาควิชาจิตวิทยาและสถาบันวิจัย PROMENTA มหาวิทยาลัย Oslo ในนอร์เวย์ พบว่า การส่งเด็กที่มีความเสี่ยงจะได้รับพันธุกรรมที่แย่จากพ่อแม่ไปเรียนในโรงเรียนที่มีคะแนนสูงจากการทดสอบระดับชาติจะช่วยให้เด็กมีผลการเรียนที่ดีขึ้นได้

 

เธอบอกว่า คุณภาพของโรงเรียนสำคัญต่อการเรียนรู้ของเด็กที่ได้พันธุกรรมที่แย่จากพ่อแม่ถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับเด็กที่ได้พันธุกรรมในระดับค่าเฉลี่ย การวิจัยนี้ดูผลการทดสอบระดับชาติของเด็กและวัยรุ่นชาวนอร์เวย์จำนวน 23,000 คน ที่มีอายุระหว่าง 10-14 ปี ในโรงเรียนทั่วประเทศ โดยพิจารณาปัจจัยเรื่องพันธุกรรมของพ่อแม่เท่านั้น นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลอีกว่า เด็กเกิดมาโดยได้รับพันธุกรรมที่ดีนั้นจะเข้าเรียนโรงเรียนไหนไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญมากนัก จึงเกิดการตั้งคำถามต่อไปว่า แล้วเด็กกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์มากแค่ไหน ถ้าเราส่งเขาไปเรีโรงเรียนเอกชนเพื่อให้เก่งขึ้นอีก แม้นักวิจัยจะยังอธิบายไม่ได้ว่า ทำไมผลการวิจัยถึงเป็นเช่นนั้น เป็นไปได้ว่า โรงเรียนที่ดีอาจให้โอกาสทางวิชาการที่ดีกว่า และมีจำนวนครูในการดูแลนักเรียนต่อคนมากขึ้น การวิจัยนี้จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป

 

งานวิจัยทั้งหมดนี้ชี้ให้เราเห็นว่า มีปัจจัยมากมายที่ส่งผลต่อโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา และความสำเร็จทางวิชาการของเด็กในอนาคต เราอาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงปัจจัยบางอย่างได้ แต่มีหลายอย่างที่เราสามารถวางแผน และให้ความช่วยเหลือเด็กได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อสร้างโอกาสในการศึกษาที่เท่าเทียมกันมากขึ้น

 

อ้างอิง

https://bigthink.com/the-present/scientists-can-now-predict-at-birth-who-will-have-academic-success/

https://www.sv.uio.no/psi/english/research/news-and-events/news/good-schools-genetic-differences.html

https://www.sciencedaily.com/releases/2019/12/191218153459.htm

https://phys.org/news/2019-12-genes-family-biggest-predictor-academic.html

Share

Authors

Authors

RELATED POSTS