Coding Literacy ภาษาสากลแห่งโลกยุคดิจิทัล
ในยุคที่เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ และการผลิตอย่างทุกวันนี้ การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในแวดวง IT หรือกลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องอีกต่อไป วงการการศึกษาทั่วโลกต่างก็กำลังจัดองค์ความรู้ใหม่ เพื่อรับมือกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างไม่หยุดยั้ง หลายประเทศได้จัดให้ ‘Coding Literacy’ ให้เป็นหนึ่งในทักษะที่เด็ก ๆ ต้องเรียนรู้ ไม่ต่างไปจากการเรียนภาษาที่สอง หรือสาม จนกลายเป็นภาษาสากลแห่งโลกยุคดิจิทัล
ทำไม Coding Literacy จึงกลายเป็นภาษาสากลของโลก?
Coding คือโปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่เป็นลำดับขั้นตอน เป็นภาษาให้มนุษย์ใช้สื่อสาร และจัดการกับระบบคอมพิวเตอร์ได้อย่างเข้าใจ จุดมุ่งหมายของการเรียนเขียนโค้ดไม่ใช่เพื่อให้เขียนโปรแกรมได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นการจัดระเบียบความคิดของเด็กให้มีตรรกะ เป็นเหตุเป็นผล เรียงลำดับการแก้ไขปัญหาได้ รวมถึงขยายพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้มากกว่าเพื่อความบันเทิง หรือการสื่อสาร ที่สำคัญคือเด็ก ๆ สามารถนำมาประยุกต์ใช้สร้างสรรค์เทคโนโลยีได้ ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21 ทั้งสิ้น
จากการรวบรวมข้อมูลโดยหน่วยงานด้านการศึกษาที่สำคัญของโลกอย่าง K12 แห่งสหรัฐ ฯ หรือรายงานของ CORE องค์กรเพื่อพัฒนาการศึกษาชั้นนำชี้ให้เห็นว่า Coding Literacy จัดเป็นหนึ่งในเทรนด์การเรียนรู้แห่งยุค ที่ผู้เกี่ยวข้องต้องเร่งสร้างพื้นฐานให้กับเด็ก ๆ เพราะในอนาคตอันใกล้นี้ เศรษฐกิจดิจิทัลจะถูกขับเคลื่อนโดยผู้ที่มีทักษะในการเขียนโปรแกรม และความเข้าใจในการทำงานของคอมพิวเตอร์
กล่าวคือเมื่อเด็ก ๆ เขียน Coding ได้ จากที่เคยเป็นผู้ใช้คอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว ก็จะกลายมาเป็นผู้สร้างสรรค์ โดยนำองค์ความรู้มาต่อยอดเป็นนวัตกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ เกม ไปจนถึงโปรแกรม และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่อาจเปลี่ยนโลกได้ด้วยตนเอง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมทั่วทั้งโลกถึงได้ให้ความสำคัญกับ Coding
Coding Literacy ในระบบการศึกษารอบโลก
อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบัน ไทย ได้บรรจุ Coding ให้อยู่ในสาระการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) ภายใต้ชื่อวิชา ‘วิทยาการคำนวณ’ นั่นทำให้แม้แต่ในบ้านเราเอง Coding ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้ว เด็ก ๆ ยุคใหม่ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาเป็นต้นไป จะได้เรียนรู้การคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ และการแก้ไขปัญหาเป็นขั้นเป็นตอน เป็นระบบ เพื่อให้นำความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร มาประยุกต์ใช้ พร้อมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากจะพูดถึงประเทศที่มีการสอน Coding กว้างขวางมากที่สุดในโลก ก็คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก ฮ่องกง หนึ่งในประเทศที่ทรงอิทธิพลด้านการศึกษามากที่สุด ฮ่องกงเล็งเห็นว่าการเรียน Coding นั้นสามารถสร้างอนาคตที่ดีให้กับเด็ก ๆ ได้ แม้จะยังไม่เป็นได้กำหนดเป็นวิชาบังคับ แต่ก็ได้บรรจุให้ Coding เป็นวิชาเลือกในโรงเรียน ให้เด็ก ๆ เลือกเรียนได้ตามความสนใจ
ด้วยความที่ผู้ปกครองเองก็หันมาใส่ใจ และอยากให้ลูกได้เรียนการเขียนโปรแกรมกันมากขึ้น ทำให้ฮ่องกงมีโรงเรียนสอนพิเศษด้าน Coding มากที่สุดในเอเชีย สิ่งที่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ เริ่มตั้งแต่การปูพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น จากการใช้งานง่าย ๆ ไปจนถึงซับซ้อนมากขึ้น เด็กที่อายุน้อยที่สุดที่เริ่มเรียนมีตั้งแต่ 4 – 6 ขวบ เทคนิคการสอนมักใช้เกมสนุก ๆ เข้าใจไม่ยาก เป็นสื่อกลางในการกระตุ้นการเรียนรู้ ให้เด็ก ๆ ได้ลองแก้ปัญหา ที่สำคัญคือได้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ผู้สนใจเรียน Coding ใน ฮ่องกงก็มีทุกเพศทุกวัย บ่อยครั้งที่พ่อแม่จับมือลูก พากันมาเรียนรู้ และทำความเข้าใจภาษาสากลนี้ไปด้วยกันทั้งครอบครัว โดยหวังก้าวให้ทันเทคโนโลยีไปพร้อมกับเด็ก ๆ ด้วย
นอกจากนี้ประเทศอื่น ๆ ในเอเชียก็มี Movement เรื่องการเรียนการสอน Coding ที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน ยกตัวอย่างเช่น ในปี พ.ศ. 2563 ญี่ปุ่น ได้บรรจุหลักสูตรการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นวิชาบังคับในระดับชั้นประถมทั่วประเทศ โดยเริ่มที่ระดับชั้นป.5 เน้นไปที่การปูพื้นฐานการเขียนโปรแกรม และการเขียนโค้ดเบื้องต้นด้วยกิจกรรมง่าย ๆ เช่น การวาดรูปทรงต่าง ๆ ด้วยดิจิทัล หรือทำไฟ LED กระพริบด้วยคำสั่งอย่างง่าย ลุยปรับการศึกษาให้สอดคล้องกับยุคสมัย ไปพร้อม ๆ กับการแก้ไขปัญหาแรงงานขาดแคลนในประเทศด้วย
เกาหลีใต้ เองก็ได้มีการปรับระบบการศึกษาด้วยการบรรจุวิชา Coding เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนทั้งในระดับประถม ฯ และมัธยม ฯ ส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ภาษาสากลนี้ในทุกระดับชั้น ด้านประเทศมหาอำนาจอย่าง จีน มองการณ์ไกล ปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่โดยนำร่องวิชาเขียนโปรแกรม หรือภาษาคอมพิวเตอร์ให้แก่เด็กตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลได้เรียนรู้ โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำระดับโลกด้าน AI ภายในปี พ.ศ. 2573
สหรัฐอเมริกา ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ให้ความสำคัญกับการเรียน Coding อย่างมาก จุดเริ่มต้นครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีก่อน จากการที่อดีตประธาธิบดี Barack Obama ได้ริเริ่มโครงการ “Computer Science For All” เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนชาวอเมริกันทุกคนมีโอกาสได้เรียนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ฝึกพื้นฐานการเขียนโปรแกรมตั้งแต่เด็ก โดยทุ่มงบพัฒนาหลักสูตรการสอน และอบรมครูกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากวงการ IT อย่างคับคั่ง นานาบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างเช่น Apple, Microsoft, Google, Facebook และอีกมากมายตบเท้าเข้าร่วมโครงการนี้ด้วย
“Coding เป็นหนึ่งในทักษะที่มีคุณค่าที่สุดที่เราจะเรียนรู้ได้ มันสามารถเปิดประตูบานใหม่ให้เราก้าวกระโดดในหน้าที่การงาน ช่วยทำฝันยิ่งใหญ่ให้กลายเป็นเป้าหมายที่บรรลุได้ ทุก ๆ คนทั่วโลกควรมีโอกาสได้เรียนรู้วิธีการเขียนโค้ด” Tim Cook ซีอีโอคนปัจจุบันของ Apple กล่าว
อ้างอิง
https://www.youtube.com/watch?v=egUJRe0BBag
https://www.educationandcareernews.com/classroom-technology/6-key-trends-in-education-technology/
https://www.businessinsider.com/apple-ceo-tim-cook-coding-should-be-taught-elementary-school-2022-10
https://www.marketingoops.com/reports/industry-insight/china-and-japan-revolution-in-education/
https://obamawhitehouse.archives.gov/blog/2016/01/30/computer-science-all
