ปรัชญาวิชาแห่งความเป็น ‘คน’ ที่โรงเรียนไม่เคยสอน
ย้อนกลับไปในยุคกรีกโบราณ ปรัชญาถือเป็นรากฐานของการศึกษาและการดำรงชีวิต โสคราตีส หนึ่งในปรมาจารย์ทางปรัชญา เชื่อว่าการรู้จักตนเองเป็นจุดเริ่มต้นของปัญญา คำกล่าวอันเลื่องชื่อของเขา “รู้ตน รู้โลก” ไม่เพียงแต่เป็นแนวทางในการแสวงหาความรู้ แต่ยังเป็นเข็มทิศนำทางชีวิตที่มีคุณค่ายิ่ง
ในขณะที่โรงเรียนส่วนใหญ่มุ่งเน้นการสอนทักษะทางวิชาการและการเตรียมนักเรียนสำหรับการทำงานในอนาคต ปรัชญากลับสอนให้เราตั้งคำถามกับสิ่งที่เรารู้และเชื่อ การคิดเชิงวิพากษ์ที่ปรัชญาปลูกฝัง ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเข้าใจโลกได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยให้เราสามารถจัดการกับความท้าทายในชีวิตได้อย่างชาญฉลาด
อริสโตเติล ศิษย์เอกของเพลโต กล่าวว่า “การศึกษาคือการบ่มเพาะจิตใจ ไม่ใช่การเติมเต็มภาชนะ” คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นว่าการเรียนรู้ที่แท้จริงไม่ใช่เพียงการท่องจำข้อมูล แต่เป็นการพัฒนาความสามารถในการคิด วิเคราะห์ และเข้าใจโลกรอบตัว ปรัชญาสอนให้เราตั้งคำถามกับสมมติฐานที่เรามีและมองโลกด้วยมุมมองที่หลากหลาย
เราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การศึกษาปรัชญากลับยิ่งมีความสำคัญ
การตั้งคำถามเชิงจริยธรรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี การพิจารณาผลกระทบของ AI ต่อสังคมและมนุษยชาติ รวมถึงการทำความเข้าใจกับธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ในยุคดิจิทัล ล้วนเป็นประเด็นที่ปรัชญาสามารถช่วยให้เราเข้าใจและจัดการได้ดีขึ้น
หลากหลายการวิจัยได้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการศึกษาปรัชญาในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Thinking Skills and Creativity ในปี 2015 พบว่านักเรียนที่เรียนปรัชญาสำหรับเด็กมีพัฒนาการด้านทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ การให้เหตุผล และความสามารถในการแก้ปัญหาที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม
นอกจากนี้ การสำรวจโดย American Philosophical Association และ National Center for Education Statistics พบว่าบัณฑิตสาขาปรัชญามีคะแนนสอบ GRE และ LSAT สูงกว่าค่าเฉลี่ยในเกือบทุกสาขาวิชา แสดงให้เห็นถึงทักษะการคิดวิเคราะห์และการใช้เหตุผลที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นผลมาจากการศึกษาปรัชญา
แม้ว่าปรัชญาอาจไม่ได้ให้คำตอบสำเร็จรูปสำหรับทุกปัญหาในชีวิต แต่มันสอนให้เรารู้จักตั้งคำถามที่ถูกต้องและค้นหาคำตอบด้วยตนเอง ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความสามารถในการปรับตัวและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ ปรัชญาไม่เพียงแต่เตรียมเราสำหรับงานในอนาคต แต่ยังเตรียมเราสำหรับการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในทุกมิติของชีวิต
การเรียนปรัชญาต้องเริ่มต้นที่ตรงไหน ?
การศึกษาปรัชญาไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากการอ่านงานเขียนที่ยากและซับซ้อนของนักปรัชญาโบราณ แต่สามารถเริ่มได้จากการตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัวและความเชื่อของตนเอง การฝึกคิดอย่างมีเหตุผล และการเปิดใจรับฟังมุมมองที่แตกต่าง การสนทนากับผู้อื่นเกี่ยวกับประเด็นทางปรัชญาในชีวิตประจำวัน เช่น ความหมายของความสุข ความยุติธรรม หรือจุดมุ่งหมายของชีวิต สามารถเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาทักษะทางปรัชญา
ในขณะที่หลายประเทศยังคงมองข้ามความสำคัญของวิชาปรัชญาในระบบการศึกษา มีหลายประเทศที่ได้ตระหนักถึงคุณค่าของวิชานี้และบรรจุปรัชญาเข้าไปในหลักสูตรการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการ การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างประเทศที่มีการสอนปรัชญาในโรงเรียนกับประเทศที่ไม่มี แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่น่าสนใจในแง่ของพัฒนาการทางความคิดและทักษะทางสังคมของนักเรียน
ยกตัวอย่างห้องเรียนในฝรั่งเศส การออกแบบหลักสูตรวิชาปรัชญามีลักษณะเฉพาะที่เน้นการศึกษาแนวคิดของนักปรัชญาคลาสสิกและร่วมสมัยควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ประเด็นทางสังคมและการเมือง หลักสูตรนี้ถูกออกแบบให้มีความท้าทายทางปัญญาสูง โดยนักเรียนจะต้องอ่านงานเขียนต้นฉบับของนักปรัชญาที่สำคัญและเขียนเรียงความวิเคราะห์เชิงปรัชญา (dissertation philosophique) ซึ่งเป็นทักษะที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้น แนวทางนี้สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมทางปัญญาของฝรั่งเศสที่ให้คุณค่ากับการคิดวิเคราะห์และการแสดงออกทางความคิดอย่างมีเหตุผล ในทางตรงกันข้าม นอร์เวย์เลือกที่จะบูรณาการแนวคิดทางปรัชญาเข้ากับการศึกษาด้านจริยธรรมและศาสนา โดยหลักสูตร “ศาสนา ปรัชญา และจริยธรรม” (Religion, Philosophy and Ethics – RLE) ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา แนวทางนี้เน้นการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นมากกว่าการท่องจำเนื้อหา โดยใช้วิธีการสอนแบบ “ชุมชนแห่งการสืบค้น” (Community of Inquiry) ซึ่งส่งเสริมให้นักเรียนตั้งคำถาม อภิปราย และหาข้อสรุปร่วมกัน วิธีการนี้สอดคล้องกับค่านิยมของสังคมนอร์เวย์ที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมและการมีส่วนร่วม รวมไปถึงประเทศที่เรามองเป็นแบบอย่างบ่อยๆอย่าง ออสเตรเลียที่นำเสนอแนวทางที่น่าสนใจในการออกแบบหลักสูตรปรัชญาสำหรับเด็ก โดยใช้โปรแกรม “Philosophy in Schools” ที่พัฒนาโดย Federation of Australasian Philosophy in Schools Associations (FAPSA) หลักสูตรนี้ถูกออกแบบให้ยืดหยุ่นและสามารถปรับใช้ได้กับนักเรียนทุกระดับชั้น โดยเน้นการพัฒนาทักษะการคิดผ่านการอภิปรายประเด็นทางปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเด็ก เช่น ความยุติธรรม มิตรภาพ หรือความจริง แนวทางนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการทำให้ปรัชญาเข้าถึงได้และเกี่ยวข้องกับชีวิตของเด็กๆ มากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม การนำวิชาปรัชญาเข้าสู่หลักสูตรการศึกษาไม่ใช่เรื่องง่าย ความท้าทายหลักๆ รวมถึงการขาดแคลนครูที่มีความเชี่ยวชาญในการสอนปรัชญา การต่อต้านจากผู้ที่มองว่าปรัชญาเป็นวิชาที่ไม่จำเป็นหรือยากเกินไปสำหรับเด็ก และข้อจำกัดด้านเวลาในหลักสูตรที่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีความท้าทายในการออกแบบหลักสูตรที่เหมาะสมกับวัยและพื้นฐานทางวัฒนธรรมของนักเรียนที่หลากหลาย
เรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ กับคำว่า VUCA World ยุคที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีรากฐานทางปรัชญาที่แข็งแกร่งจะช่วยให้เรายืนหยัดได้อย่างมั่นคง เข้าใจตนเองและโลกรอบตัวได้ดีขึ้น และสามารถสร้างความหมายให้กับชีวิตได้แม้ในยามที่เผชิญกับความท้าทาย ดังนั้น จงเปิดใจให้กว้าง ตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว และเริ่มต้นการเดินทางแห่งปัญญาของคุณเอง เพราะในที่สุดแล้ว การศึกษาที่แท้จริงไม่ใช่การได้รับปริญญาหรือใบประกาศนียบัตร แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้นในทุกๆ วันนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูล
https://www.jmu.edu/philrel/why-study-philosophy/why-study-philosophy.shtml
https://imagine5.com/articles/the-case-for-teaching-kids-philosophy/
https://www.forbes.com/sites/davidebanis/2019/11/21/why-its-important-to-teach-children-philosophy/